ผลของโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยหลังผ่าตัดลิ้นหัวใจ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: โรคหัวใจเป็นสาเหตุการตาย และจัดเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ในปี พ.ศ.2567 ในประเทศไทยพบมีจำนวนผู้ป่วยสะสมด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด มากกว่า 2.5 แสนราย และเสียชีวิตมากถึง 4 หมื่นราย โรคลิ้นหัวใจเป็นโรคที่ต้องได้การรักษาด้วยการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อถึงระดับที่ยาไม่ได้ผลผู้ป่วยจะได้รับการผ่าตัดซ่อมแซมรวมถึงเปลี่ยนลิ้นหัวใจซึ่งการผ่าตัดจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นในระดับหนึ่ง ทั้งนี้การที่ผู้ป่วยจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างต่อเนื่องนั้น ผู้ป่วยต้องมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองที่ดีเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลให้ต้องกลับเข้ารับการรักษาและการผ่าตัดซ้ำ ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาความรอบรู้ด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วย
วิธีการศึกษา: การวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจ ที่เข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดลิ้นหัวใจ ณ แผนกศัลยกรรมทรวงอก โรงพยาบาลตติยภูมิแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จำนวน 40 ราย ใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างเข้ากลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม ด้วยวิธีจับฉลากแบบไม่ใส่คืน กลุ่มละ 20 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ โปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพ แบบวัดพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง มีค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดทั้งฉบับอยู่ที่ระดับ 0.73 และ 0.81 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้สถิติ Independent samples t-test, Paired t-test, Mann-Whitney U Test, and Wilcoxon signed-rank test
ผลการศึกษา: ก่อนการทดลองกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองอยู่ในระดับค่อนข้างสูง (Mean = 179.40, SD = 14.45) และ(Mean = 178.10, SD = 7.05) ตามลำดับ หลังการทดลองกลุ่มทดลองมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองอยู่ในระดับสูง (Mean = 224.60, SD = 9.09) กลุ่มควบคุมมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองอยู่ในระดับค่อนข้างสูง (Mean = 180.75, SD = 7.59) และผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า กลุ่มทดลองหลังเข้าร่วมโปรแกรมฯ มีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองสูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯ และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุปผล: ผลการศึกษาสนับสนุนโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพสามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ และมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้นกว่าการได้รับการพยาบาลตามปกติเพียงอย่างเดียว การนำโปรแกรมนี้ไปใช้ดูแลผู้ป่วยอาจจะนำมาซึ่งการลดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.