การทดสอบประสิทธิผลของโปรแกรม "ThalPred" ต่อแนวทางการรักษา และให้คำปรึกษาแก่หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะซีด
คำสำคัญ:
โปรแกรม "ThalPred", หญิงตั้งครรภ์, ภาวะซีดบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการนำโปรแกรม "ThalPred" มาใช้ในการวิเคราะห์ค่ากลาง (ค่าเฉลี่ย) ของ Thalassemia Trait (TT) โดยใช้ผล CBC ของหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะซีด (Hct< 33 vol%) มีวัตถุประสงค์ เพื่อได้ค่ากลาง Thalassemia Trait (TT) และสูตรสมการถดถอย ในการประมาณค่าความสัมพันธ์ที่บ่งบอกถึงแนวโน้มของการให้ยาเสริมธาตุเหล็ก (Ferrous Fumarate) แก่หญิงตั้งครรภ์ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการที่คลินิกฝากครรภ์ โรงพยาบาลศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น รูปแบบการศึกษาแบบ Retrospective Cohort study ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ถึง 31 พฤษภาคม 2567 จำนวน 100 ราย โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง แบ่งออกเป็นกลุ่มที่ไม่เป็นพาหะหรือไม่เป็นโรคธาลัสซีเมีย 50 ราย และกลุ่มที่เป็นพาหะหรือโรคธาลัสซีเมีย 50 ราย เครื่องมือที่ใช้เป็นโปรแกรม "ThalPred" (Thalassemia Prediction) ของมหาวิทยาลัยมหิดล มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัยพบว่า ค่ากลางของ Thalassemia Trait (TT) กลุ่มที่ไม่มีโรคหรือพาหะธาลัสซีเมียแฝง (MCV,MCH ปกติ) ค่าเฉลี่ย TT ≤ 0.5 และกลุ่มที่มีโรคหรือพาหะธาลัสซีเมียแฝง (MCVหรือMCH ผิดปกติ) ค่าเฉลี่ย TT > 0.5 ซึ่งถ้าค่า TT > 0.5 สามารถแยกภาวะซีดว่าเกิดจากโรคหรือพาหะธาลัสซีเมียจากค่า MCV ถ้า MCV ≥ 70 มีแนวโน้มเป็นพาหะธาลัสซีเมีย ถ้า MCV < 70 มีแนวโน้มจะเป็นโรคธาลัสซีเมีย และสูตรสมการถดถอยคือ thal12 = 0.848 + 1.271(TT) + ε ถ้า thal12 < 1.5 (คัดกรองธาลัสซีเมียผ่าน) หรือ thal12 ≥ 1.5 (คัดกรองธาลัสซีเมียไม่ผ่าน) จะสามารถให้ยาเสริมธาตุเหล็ก (Ferrous Fumarate) แก่หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะซีด ดังนั้นสามารถนำค่า CBC ประมวลผลโดยโปรแกรม "ThalPred" เพื่อพิจารณาให้ยาเสริมธาตุเหล็กได้
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Guideline: daily iron and folic acid supplementation in pregnant women [Internet]. Geneva: WHO; 2012 [cited 2015 Nov 15]. Available from: http://apps.who.int/iris/bitstream/10665/77770/1/9789241501996eng.pdf
Beyan C, Kaptan K, Ifran A. Predictive value of discrimination indices in differential diagnosis of iron deficiency anemia and beta-thalassemia trait. Eur J Haematol. 2007;78:524
Ntaios G, Chatzinikolaou A, Saouli Z, et al. Discrimination indices as screening tests for b-thalassemic trait. Ann Hematol. 2007;86:487-91.
Sirdah M, Tarazi I, Al Najjar E, Al Haddad R. Evaluation of the diagnostic reliability of different RBC indices and formulas in the differentiation of the β-thalassaemia minor from iron deficiency in Palestinian population. Int J Lab Hematol. 2008;30:324-30.
จิตสุดา บัวขาว. Thailand Medical Services Profile (TMSP) ฉบับย่อและเพิ่มเติม. นนทบุรี: สำนักวิชาการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข; 2560.
ฐิติรัตน์ เดชพรหม. ม.มหิดล เยียวยาปัญหาสาธารณสุขและเศรษฐกิจโลก คิดค้นโปรแกรม “ThalPred” ช่วยวินิจฉัยโรคโลหิตจางจากพันธุกรรม “ธาลัสซีเมีย” ด้วย AI[อินเตอร์เนต]. 2022 [เข้าถึงเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567]; เข้าถึงได้ จาก https://op.mahidol.ac.th/ga/author-153/
Mentzer WC. Differentiation of iron deficiency from thalassaemia trait. Lancet. 1973;1:882.
เชาวณี วังช่วย, ชวดี นพรัตน์. การตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำของเครื่องตรวจวิเคราะห์ชนิดและปริมาณฮีโมโกลบิน Capillarys 2 Flex Piercing สำหรับวินิจฉัยโรคธาลัสซีเมียและฮีโมโกลบินผิดปกติ. วารสารโลหิตวิทยาและเวชศาสตร์บริการโลหิต. 2562;29:121-30.
วรรณพร คำพิลา, คณะ. การดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก: บทบาทที่ท้าทายของพยาบาล. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 2565;30(2):134-42.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความนี้ลงตีพิมพ์ในวารสารศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ถือเป็นผลงานทางวิชาการหรือวิจัย ผลการวิเคราะห์ตลอดจนข้อเสนอแนะเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของวารสารศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น หรือกองบรรณาธิการแต่อย่างใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
