การพัฒนาความรอบรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ
คำสำคัญ:
คำสำคัญ : ความรอบรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม , ฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) , อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)บทคัดย่อ
การพัฒนาความรอบรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
ในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ
Developing environmental health literacy to tackle the problem of microscopic
Particles (PM2.5) in the village health volunteers , Sophisai District , Buengkan Province
นายวิชัย ศรีผา สาธารณสุขอำเภอโซ่พิสัย
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอโซ่พิสัย อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ 38170
Telephone: 088 509 7446
e-mail : mohpe10@gmail.com
บทคัดย่อ
อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ในเดือนมกราคม พ.ศ.2564 วัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ที่หน้าโรงพยาบาลโซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย เฉลี่ยค่าฝุ่นอยู่ที่ 71.10 มคก./ลบ.ม. และสูงเกิน 50 มคก./ลบ.ม. เรื่อยมาซึ่งเป็นระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเกิดจากเกษตรกรมีการเผาไร่นาเพื่อกำจัดเศษวัชพืชหรือเศษซากพืชที่เหลืออยู่ภายหลังการเก็บเกี่ยว และการเผาเศษใบไม้ใบหญ้าอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการพัฒนาความรอบรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5 )ในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ
โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) 4 ขั้นตอน ตามแนวคิดของ Kemmisและ McTaggart ได้แก่การวางแผน การลงมือปฏิบัติ การสังเกตผล และการสะท้อนผล มีกลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) จำนวน 56 คน ใช้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพและข้อมูลเชิงปริมาณ สถิติที่ใช้คือสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่การแจกแจงความถี่ (Frequency) และร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และใช้สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Correlation) เป็นค่าที่วัดความสัมพันธ์ และการทดสอบค่าที (t-test แบบ Dependent samples)
ระยะเวลาในการดำเนินการระหว่างเดือนมีนาคม-มิถุนายน พ.ศ.2564
ผลการวิจัย พบว่าอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ มีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีพฤติกรรมการจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) โดยรวมอยู่ในระดับมาก ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ได้แก่ การเข้าถึงข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อม การเข้าใจข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อม การตรวจสอบข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อมและการตัดสินใจเพื่อป้องกันสุขภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และมีค่าเฉลี่ยของระดับคะแนนความรอบรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) โดยรวม ของกลุ่มทดลอง หลังดำเนินการ มากกว่า ก่อนดำเนินการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5
ส่วนการประชุมกลุ่มพบว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) มีความรอบรู้ด้านสุขภาพในการจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ได้แก่ การเข้าถึงข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อม การเข้าใจข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อม การตรวจสอบข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อม และการตัดสินใจเพื่อป้องกันสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมการจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ได้แก่ พฤติกรรมการเฝ้าระวังสุขภาพตนเองและชุมชนจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) และพฤติกรรมการป้องกันการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
จากผลการวิจัยนี้ สะท้อนให้เห็นว่าอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) อำเภอโซ่พิสัย จังหวัด
บึงกาฬ สามารถการเข้าถึงข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ ส่งผลให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) มีความเข้าใจข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อม สามารถตรวจสอบข้อมูลอนามัยสิ่งแวดล้อมและการตัดสินใจเพื่อป้องกันสุขภาพได้ ทำให้มีระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และมีพฤติกรรมการจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) โดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่งผลให้มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องความรอบรู้ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ภายหลังดำเนินการ
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความนี้ลงตีพิมพ์ในวารสารศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ถือเป็นผลงานทางวิชาการหรือวิจัย ผลการวิเคราะห์ตลอดจนข้อเสนอแนะเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของวารสารศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น หรือกองบรรณาธิการแต่อย่างใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง