ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความมีเอกสิทธิ์ในวิชาชีพของพยาบาลประจำการ ในโรงพยาบาลของรัฐ ประเทศเวียดนาม Professional Autonomy and Its related Factors among Staff Nurses in Public Hospitals in The North of Vietnam
คำสำคัญ:
ความมีเอกสิทธิ์ในวิชาชีพ, การประสานความร่วมมือระหว่างพยาบาลและแพทย์, เวียดนาม professional autonomy, nurse-physician collaboration, vietnamบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงบรรยายและหาความสัมพันธ์ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความมีเอกสิทธิ์ในวิชาชีพและ
ระดับการประสานความร่วมมือระหว่างพยาบาลและแพทย์ และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความมีเอกสิทธิ์ในวิชาชีพ
ของพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐ ประเทศเวียดนาม กลุม่ ตัวอยา่ งเปน็ พยาบาลประจำการที่ปฏิบัติงานในหอผูป้ ว่ ย
สามัญและหอผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลของรัฐ 2แห่ง ในภาคเหนือประเทศเวียดนาม จำนวน 120 คน เลือกกลุ่ม
ตัวอย่างโดยการสุ่มอย่างง่าย เก็บข้อมูลใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
เพียร์สัน และการทดสอบทีแบบกลุ่มตัวอย่างอิสระ ผลการวิจัยพบว่า พยาบาลกลุ่มตัวอย่างรับรู้ความมีเอกสิทธิ์ใน
วิชาชีพและการประสานความร่วมมือระหว่างพยาบาลและแพทย์ ในระดับปานกลาง และอายุของพยาบาล จำนวนปี
ของประสบการณ์ทำงาน และระดับการประสานความร่วมมือระหว่างพยาบาลและแพทย์ มีความสัมพันธ์ทางบวก
กับความมีเอกสิทธิ์ในวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .47, p < .001, r = .34, p < .001, r = .59, p < .001ตามลำดับ) และผลการทดสอบที พบวา่ พยาบาลที่ปฏิบัติงานในหอผูป้ ว่ ยวิกฤติ มีการรับรูค้ วามมีเอกสิทธิ์ในวิชาชีพ
สูงกว่าพยาบาลที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยสามัญ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001) ผลการวิจัยครั้งนี้เสนอแนะว่า
ผูบ้ ริหารการพยาบาล ควรสรา้ งบรรยากาศการทำงานที่สง่ เสริมใหแ้ พทยแ์ ละพยาบาลทำงานเปน็ ทีม เขา้ ใจ ยอมรับ
และไว้วางใจกัน เพื่อให้มีการประสานความร่วมมือที่ดีในการทำงาน และส่งผลต่อความมีเอกสิทธิ์ในวิชาชีพ