การพยาบาลทางไกลร่วมกับการใช้โปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน ต่อความสามารถของผู้ดูแลในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหลังจำหน่ายกลับบ้าน โรงพยาบาลยางชุมน้อย อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ
คำสำคัญ:
การพยาบาลทางไกล, โปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตน, ความสามารถ, ผู้ดูแล, ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองบทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจำวัน ภาวะแทรกซ้อน ระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพ ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ ความรู้ ความสามารถ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน ความพึงพอใจ และคุณภาพชีวิตของผู้ดูแลก่อนและหลังใช้การพยาบาลทางไกลร่วมกับการใช้โปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหลังจำหน่ายกลับบ้าน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและผู้ดูแล คัดเลือกแบบจำเพาะเจาะจงตามเกณฑ์จำนวน 30 คู่ เป็นกลุ่มทดลอง 15 คู่และกลุ่มเปรียบเทียบ 15 คู่ เวลาศึกษา 16 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัย คือ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองประกอบด้วย 1) การวางแผนจำหน่าย 2) โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตน 3) แนวทางการพยาบาลทางไกล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 8 ส่วน ส่วนที่ 1) ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนที่ 2) แบบประเมินความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย ส่วนที่ 3) แบบประเมินความรู้ในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของผู้ดูแล ส่วนที่ 4) แบบประเมินความสามารถในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของผู้ดูแล ส่วนที่ 5) แบบประเมินการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของญาติผู้ดูแล ส่วนที่ 6) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ส่วนที่ 7) แบบประเมินการเกิดภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วย และส่วนที่ 8) แบบวัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกฉบับภาษาไทย แบบสอบถามมีดัชนีความตรงเชิงเนื้อหาทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 ค่าความเที่ยงของแบบสอบถามส่วนที่ 3 ส่วนที่ 4 ส่วนที่ 5 และส่วนที่ 6 ได้เท่ากับ 0.82, 0.84, 0.79 และ 0.80 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติทดสอบที
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มทดลองมีความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน หลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .05) หลังทดลองผู้ป่วยกลุ่มทดลองไม่พบภาวะแทรกซ้อน ระยะเวลาฟื้นฟูเฉลี่ย 3 เดือน ด้านผู้ดูแลมีความรู้ ความสามารถ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน ความพึงพอใจและคุณภาพชีวิตหลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< .05) ส่วนกลุ่มเปรียบเทียบก่อนและหลังทดลองไม่แตกต่างต่างกัน จากการศึกษาชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการพยาบาลทางไกลร่วมกับการใช้โปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนส่งผลให้ผู้ดูแลมีความรู้ มีการรับรู้สมรรถนะแห่งตน ส่งผลให้มีความสามารถในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น
Downloads
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Health statistics and health information systems [Internet].2020 [cited 2024 Apr 5]. Available from: http://www.WHO.Int/healthinfo/statistics/mortdata/en/index.html.
American Heart association. Heart Disease and Stroke Statistics update. AHA/ASH Journal Calculation 015;131(2):321-9.
Division of Noncommunicable Diseases/Bureau of Risk Communication, Department of Disease Control. [Internet]. 2023 [cited 2024 Apr 5]. Available from: https://datariskcom-ddc.moph.go.th/download.
American Heart Association/American Stroke. Association Focused Update: Guidelines for the Early Management of Patients With Acute Ischemic Stroke Regarding. Guidelines for the early management of patients with acute ischemic stroke regarding endovascular treatment. telemed J E Health. 2015;46:3024-39.
Chareonrat P. Effects of a stroke patient and their family caregiver transition program from hospital to home on patient performance, daily activities, complications, and patient satisfaction.
Neuroanatomy and function of intracranial and extracranial vessels. Journal of Nursing Sciences. 2024;16(1):52-66. (in Thai)
Yangchumnoi Hospital. Special Clinic Report. Noncommunicable Diseases Clinic; 2023. P. 12-20 (in Thai)
Indharasombat P, Sirapognarm Y, Chansirikan S, Yamvong C, Mahagayanan S. Effects of application of Orem’s nursing system on patients’ and relatives’ satisfaction with care and functional outcomes in hospitalized elderly patients. Rama Nursing care Journal. 1996;2(3):1-15. (in Thai)
Bandura A. Self efficacy education. New York. W.H. freeman. 2019;604(1):526-73.
Singhthongwan W, Puanpai S. the effect of telenursing on the ability of caregivers to care for stroke patients after discharge from home at Chiang Mai Neurological Hospital. Nursing, Health, and Public health journal. 2018;27(3):500–9. (in Thai)
WHOQOL–BREF–THAI. Mapping of the World Health Organization quality of life brief to the EQ-5D-5L in the population in the area. [Internet] 2022 [cited 2024 Apr 5]. Available from https://link.springer.com/article/10.1007/s41669-022-00380-0
Black JM, Edsberrg LE, Baharestani MM, Langemo D, Goldberg M, McNichol L, et al. National Pressure Ulcer Advisory Panel. Pressure Ulcers, avoidable or un avoidable? Results of National Pressure Ulcer Advisory Panel Consensus Conference. Ostomy Wound Management. 2011;57(2):24-37.
Piyahiran C, Kasiphon T, Prasertsong Ch. The effect of self-efficacy enhancement program for stroke caregivers, Huachiew Chalermprakiet University. Journal of Nursing Therapeutic Care. 2018;22(2):130-42. (in Thai)
Chantra R, Weerajitr S, Srethongkul P. The effect of using a discharge planning program for stroke patients in the transitional period from hospital to home on readiness for care before returning home, Surat Thani Hospital. Journal of Nursing and Education. 2023;16(4):29–39. (in Thai)
Naylor M, Brooten A, Campbell L, Maislin G, McCauley M, Schwartz J. Transitional care of older adults hospitalized with heart failure: a randomized controlled Trial. J Am Geriatr Soc. 52(5):675-84.
Nueangchomphu P. Development of a program to promote competence of caregivers of stroke patients, Bueng Kan Hospital, Bueng Kan Province. Journal of Community Development and Quality of Life. 2024;40(2):1-11.(in Thai)
Srijamnong N. The effect of self-efficacy enhancement program of caregivers on the ability to perform daily activities of stroke patients, Community Health Center, Udon Thani Hospital 2. Udon Thani Hospital Medical Journal. 2020;7(1):18-32. (in Thai)
Chanwisit O, Worakul Ch, Yeesakul C. Studied the results of using a care plan for patients with ischemic and occlusive cerebrovascular disease at Songkhlanagarind Hospital. Journal of Research in Nursing – Midwifery and Health Sciences. 2022;42(2):63-73. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
