รูปแบบการพยาบาลเพื่อความปลอดภัยผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันชนิด STEMI ที่ได้รับการเปิดขยายหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด

บทคัดย่อ

วิจัยเชิงปฏิบัติการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการพยาบาลเพื่อความปลอดภัยผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันชนิดเอสทียก ที่ได้รับการเปิดขยายหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่างได้แก่ พยาบาลและสหวิชาชีพ 88 คน ผู้ป่วย 92 คน ผู้ดูแล 28 คน ดำเนินการวิจัย 3 ระยะคือ วิเคราะห์ปัญหา พัฒนารูปแบบ และประเมินผล เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แนวคำถามสัมภาษณ์เชิงลึก สนทนากลุ่ม แบบประเมินความพึงพอใจต่อแนวปฏิบัติ แบบบันทึกภาวะแทรกซ้อน แบบประเมินสมรรถนะพยาบาล วิเคราะห์ร้อยละการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจใน 10 นาที การเกิดภาวะแทรกซ้อน คะแนนความพึงพอใจใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สมรรถนะพยาบาลใช้ paired sample t-test และข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา

ผลการวิจัย พบปัญหา 6 ด้าน 1) เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังเปิดขยายหลอดเลือดหัวใจ 2) การมีส่วนร่วมของผู้ดูแลค่อนข้างน้อย 3) สมรรถนะพยาบาลไม่ถึงเกณฑ์บางส่วน 4) ขาดรูปแบบการพยาบาลที่ประกันความปลอดภัย 5) สิ่งแวดล้อมไม่เอื้อต่อการพักผ่อน 6) ความต้องการเตรียมความพร้อมก่อนกลับบ้าน กระบวนการพัฒนา ได้แก่ สร้างความตระหนักการดูแล สร้างทีมและแนวปฏิบัติการพยาบาล พัฒนาสมรรถนะพยาบาลและขยายแนวร่วม ได้รูปแบบ 3Cs for safety ประกอบด้วย Clinical nursing practice guideline, Competency และ Clinical supervision ประเมินผลพบว่า ร้อยละการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจใน 10 นาที เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 87.5 เป็นร้อยละ 93.8 ภาวะเลือดออกลดลงจากร้อยละ 12.6 เป็นร้อยละ 6.2 ก้อนเลือดใต้เนื้อเยื่อลดลงจากร้อยละ 9.4 เป็นร้อยละ 3.1 ริเริ่มใช้ Modified Early Warning Signs (MEWS)  ในการเฝ้าระวังเชิงรุกร้อยละ 95.3 ความพึงพอใจของพยาบาลต่อแนวปฏิบัติอยู่ในระดับมาก และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนสมรรถนะการพยาบาลก่อนและหลังพัฒนาพบว่า เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) ทำให้พยาบาลเกิดความรู้ พึงพอใจ คุณภาพการพยาบาลเพิ่มขึ้น ผู้รับบริการปลอดภัย