ผลของโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ยาในผู้สูงอายุโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี Effect of Drug use Behaviors Promotion Program in Elderly Patients with Non-Communicable diseases Khemarat District Ubonratchatani Province.

ผู้แต่ง

  • นิตยาทิพย์ แสนแดง
  • ชื่นจิตร โพธิศัพท์สุข

บทคัดย่อ

การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ยาในผู้สูงอายุโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต่อความรู้เรื่องการใช้ยา การรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนและความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงจากการใช้ยาไม่ถูกต้อง การรับรู้ประโยชน์และอุปสรรคในการใช้ยาให้ถูกต้อง พฤติกรรมการใช้ยา ระดับน้ำตาลในเลือด ความดันซีสโตลิคและความดันไดแอสโตลิค

กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุ 62 คนที่มีอายุระหว่าง 60 – 80 ปี ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานร่วมกับโรคความดันโลหิตสูง จากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยแบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 31 คน กลุ่มเปรียบเทียบ 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองเป็นโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ยาในผู้สูงอายุโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่พัฒนาขึ้นโดยประยุกต์ใช้แนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสัมภาษณ์ 6 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไป ความรู้เรื่องการใช้ยาในผู้สูงอายุโรคไม่ติดต่อเรื้อรังการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนและการรับรู้ความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาไม่ถูกต้อง การรับรู้ประโยชน์ที่จะได้รับและอุปสรรคในการใช้ยาให้ถูกต้องและพฤติกรรมการใช้ยาโดยมีค่าความเที่ยงของแบบสัมภาษณ์ส่วนที่ 2, 3, 4, 5, และ 6 เท่ากับ0.89, 0.83, 0.87, 0.82 และ 0.81 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปด้วยสถิติเชิงพรรณนาการทดสอบสมมติฐานใช้สถิติทดสอบทีวิลคอกซัน ซายด์ แรงค์ เทสต์และแมนวิทนีย์ ยูเทสต์         (Wilcoxon Signed Ranks Test, and Mann-Whitney U Test)

ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มทดลองมีความรู้เรื่องการใช้ยาในผู้สูงอายุโรคไม่ติดต่อเรื้อรังการรับรู้โอกาสเสี่ยง การรับรู้ความรุนแรง การรับรู้ประโยชน์และอุปสรรคและพฤติกรรมการใช้ยา หลังการทดลองใช้โปรแกรมฯ มากกว่าก่อนการทดลองใช้โปรแกรมฯและมากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และหลังการทดลองใช้โปรแกรมฯกลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตซีสโตลิค และความดันโลหิตไดแอสโตลิค น้อยกว่าก่อนการทดลองใช้โปรแกรมฯ และน้อยกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2018-10-14