ปัจจัยทำนายความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน ที่มารับบริการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ Factors Predicting Psychological Well-Being of the Elderly With Diabetes Mellitus Receiving Care at a Health Promoting Hospital
คำสำคัญ:
ความผาสุกทางใจ ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน การเห็นคุณค่าในตนเอง ความว้าเหว่ การสนับสนุนทางสังคม การเข้าถึงบริการสุขภาพ, well-being, elderly with diabetes mellitus, self-esteem, loneliness, social support, access health serviceบทคัดย่อ
ความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานส่งผลต่อการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิต การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์เชิงทำนาย เพื่อศึกษาความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน และปัจจัยทำนายความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานที่มารับบริการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ จำนวน 100 ราย โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบง่าย จับฉลากแบบไม่คืนที่ เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 6 ส่วน ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุ แบบสอบถามการเข้าถึงบริการสุขภาพ แบบสอบถามการเห็นคุณค่าในตนเอง แบบสอบถามความว้าเหว่ และแบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานมีค่าเฉลี่ยความผาสุกทางใจโดยรวมอยู่ในระดับสูง เท่ากับ 56.74 (SD = 9.17) จากการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอนพบว่าการสนับสนุนทางสังคม การเข้าถึงบริการสุขภาพ และการเห็นคุณค่าในตนเองร่วมกันทำนายความผาสุกทางใจได้ร้อยละ 74.5 (R2 = .745, F = 93.546, p < .001) โดยตัวแปรที่สามารถทำนายความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานได้สูงที่สุด คือ การสนับสนุนทางสังคม (β = .342, p < .001) รองลงมา คือ การเข้าถึงบริการสุขภาพ (β = .335, p < .001) และการเห็นคุณค่าในตนเอง (β = .302, p < .001) โดยสมการทำนายความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานในรูปคะแนนมาตรฐาน คือ Zความผาสุกทางใจ = .342 (Zการสนับสนุนทางสังคม) + .335 (Zการเข้าถึงบริการสุขภาพ) + .302 (Zการเห็นคุณค่าในตนเอง)
ผลการศึกษาในครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า บุคลากรทางสุขภาพควรให้ความสำคัญและตระหนักถึงความผาสุกทางใจของผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน โดยการส่งเสริมการสนับสนุนทางสังคม การเข้าถึงบริการสุขภาพ และการเห็นคุณค่าในตนเองให้เพิ่มขึ้นอันจะเป็นการช่วยเพิ่มความผาสุกทางใจให้กับผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน
Well–being of the elderly with diabetes mellitus has been effected by the self care and quality of life. The objectives of this predictive correlational research were to study well–being of the elderly with diabetes mellitus and the factors predicting psychological well–being of the elderly with diabetes mellitus who have been receiving care at a Health Promoting Hospital. The total number 100 elderly with diabetes mellitus were recruited by simple random sampling without replacement, from July to August 2016. Research instruments included personal information, well-being of elderly, access health service, self-esteem, loneliness, and social support. The analysis of data was done by descriptive statistic, Pearson correlation, and multiple regressions.
The study found that the elderly with diabetes mellitus had average well-being score of 56.74 (SD = 9.17), in high level. From the multiple regression found that social support, access health services and self-esteem could predict factors that influence well-being 74.5 percent (R2 = .745, F = 93.546, p < .001). The most influence factor was social support for well-being of the elderly with diabetes mellitus (β = .342, p < .001). The prediction standard equation was
Z well - being = .342 (Z social support) + .335 (Z access health services) + .302 (Z self - esteem)
The research result suggested that health professional should give importance and consciousness in well–being of elderly with diabetes mellitus by enhancing social support, access health service, and self–esteem among elderly with diabetes mellitus.