ผลของการสอนฉีดยาด้วยนวัตกรรม GPs Insulin ต่อระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการรักษาด้วยยาฉีดอินสุลิน The Effects of Medication Injection Teaching by Using GPS Insulin’s Innov Ation on Fasting Plasma Glucose in Diabetes Patients who Treated Wi

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

                   การวิจัยแบบกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานวัตกรรม GPs Insulin ในการช่วยสอนฉีดอินสุลินและเพื่อเปรียบเทียบระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้และไม่ใช้นวัตกรรม GPs Insulin ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยผู้วิจัยตามแนวคิดที่ว่าการฉีดอินสุลินที่หน้าท้องเป็นตำแหน่งที่มีการดูดซึมดีที่สุด และจำเป็นต้องมีการหมุนเวียนตำแหน่งที่ฉีดอย่างมีแบบแผนไม่ซ้ำเดิม เพื่อทำให้อินสุลินออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการรักษาด้วยยาฉีดอินสุลินมีระดับน้ำตาลในเลือดหลังงดน้ำและอาหาร8 ชั่วโมง >180 mg/dl หรือมีระดับฮีโมโกลบินที่มีระดับน้ำตาลเกาะ(HbA1C) > 9.0% มารับการรักษาพยาบาลที่แผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มาโดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจงและจับคู่ตามเพศ อายุ ระยะเวลาของการเป็นโรคเบาหวานและระดับน้ำตาลในเลือด จำนวน 34 ราย แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 17  รายกลุ่มทดลองได้รับการสอนฉีดอินสุลินโดยใช้นวัตกรรมGPs Insulin  ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการสอนฉีดอินสุลินด้วยวิธีการปกติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในแต่ละกลุ่มด้วยสถิติ Paired t-test และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มด้วย independent t- test

                ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มทดลองที่ได้รับการสอนฉีดยาด้วยการใช้นวัตกรรมGPs Insulinมีค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือดหลังการทดลองลดลงแตกต่างจากกลุ่มควบคุมที่ได้รับการสอนฉีดอินสุลินด้วยวิธีการตามปกติกลุ่มทดลองมีระดับน้ำตาลลดลงมากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01)ดังนั้นการส่งเสริมให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถฉีดยาได้ถูกต้องและถูกตำแหน่งโดยใช้นวัตกรรม GPs Insulin  เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับยาฉีดอินสุลินสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามควรมีการติดตามระดับน้ำตาลในระยะยาวด้วย

Abstract

                This quasi-experimental research aimed to develop the GPs Insulin innovation for teaching insulin injection and to compare the fasting plasma glucose in diabetes mellitus patients (DM) who used and not used the GPs Insulin innovation.  This innovation was developed by researchers based on concept of the best site and circulated the location for absorbing insulin injection.The samples of this study were consisted of 34 insulin injection diabetes mellitus patients who had fasting blood sugar >180 mg/dlor level of HbA1C > 9.0%and received medical services at Out-Patient Department,Nongki Hospital, Buri Ram Province. The purposive sampling was used with matched pairs based on gender, age, the period of being DM patients, and fasting plasma glucose. The sample was assigned into an experimental and a control group, 17 patients in each group.  The experimental group received the teaching insulin injection by using the GPs Insulin innovation while the control group received the teaching insulininjection by usual care. Data were analyzed by using frequency, percentage, mean, standard deviation, Paired t-test andindependent t-test.

The results revealed that the experimental group that received teaching insulin injection by using the GPs Insulininnovation had significantly decreased the mean level of fasting plasma glucose than the control group that received usual care (p-value ≤ .01). Then, the right site and accurately insulin injection by using the GPs Insulin innovation should be promoting in the diabetes mellitus patients who received the insulin injection. However, researcher should follow the fasting plasma glucose in the long time periods.