กลไกการเพิ่มประสิทธิภาพระบบกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อาหารของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อมอบอำนาจเพิ่มเติมในส่วนภูมิภาค

Main Article Content

ญาณพล ขาวพลศรี

บทคัดย่อ

ความสำคัญ: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับผลิตภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัย คุ้มค่า และสมประโยชน์ โดยกำกับดูแลและเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ สถานประกอบการด้านอาหาร และการโฆษณาให้เป็นไปตามกฎหมายทั่วประเทศ จึงได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในการรับขึ้นทะเบียนและอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สถานที่ผลิตและนำเข้าอาหาร การโฆษณา และเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์และสถานประกอบการด้านอาหาร รวมทั้งให้อำนาจในการพักใช้ใบอนุญาต หรือการเพิกถอนใบอนุญาต และการเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522 มาตั้งแต่ปี 2536 ดังนั้นเพื่อให้กลไกดังกล่าวมีประสิทธิภาพ ผู้วิจัยจึงวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ การปฏิบัติงานเพื่อให้ทราบปัญหาอุปสรรค ข้อจำกัดของการปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งมอบอำนาจฉบับปัจจุบัน และค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อขยายขอบข่ายการมอบอำนาจให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน


วัตถุประสงค์:  เพื่อสำรวจสภาพปัญหา ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่มีต่อระบบการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารในด้านการกำกับดูแลก่อนและหลังออกสู่ตลาดในปัจจุบัน และเพื่อจัดทำข้อเสนอกลไกการพัฒนาประสิทธิภาพของการกำกับดูแลด้านอาหารที่มอบอำนาจให้จังหวัด


วิธีการวิจัย: การศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ระหว่างเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงโดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคที่มีประสบการณ์ตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไปจาก 13 จังหวัดที่มีสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ และข้าราชการระดับบริหาร กองส่งเสริมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น อย. จำนวน 1 คน  รวมทั้งสิ้น 14  คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็น


ผลการศึกษา: จากการสัมภาษณ์ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์และสภาพปัญหาในกลุ่มตัวอย่างพบว่า กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 100 เห็นว่าการมอบอำนาจให้ส่วนภูมิภาคมีอำนาจในการปฏิบัติราชการช่วยอำนวยความสะดวกและเกิดประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจได้มากกว่าการรวมอำนาจในส่วนกลาง และร้อยละ 85.72 เห็นว่าการมอบอำนาจด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ทำให้จังหวัดบริหารจัดการได้เหมาะกับบริบทและสามารถกำกับดูแลได้ครอบคลุมมากกว่า ส่วนการมอบอำนาจเพิ่มเติมในอนาคตเห็นว่า การมอบอำนาจอนุญาตแบบเบ็ดเสร็จจะทำให้การคุ้มครองผู้บริโภคมีความครอบคลุมมากขึ้นเนื่องจากสามารถบริหารจัดการในเขตพื้นที่รับผิดชอบได้ง่ายกว่า นอกจากนั้น มีข้อค้นพบปัญหาและอุปสรรคสำคัญในปัจจุบันใน 5 ลำดับแรก ได้แก่ บุคลากรขาดความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอาหารและความรู้ด้านกฎหมาย ร้อยละ 100 ขาดความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนที่นำมาใช้ในการปฏิบัติงาน ร้อยละ 100 การให้บริการไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน การอนุญาตล่าช้าเนื่องจากมอบอำนาจให้ผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดเท่านั้น และงบประมาณไม่เพียงต่อการปฏิบัติงาน ร้อยละ 85.71 71.24 และ 57.41 ตามลำดับ เมื่อพิจารณาถึงข้อเสนอแนะของกลุ่มตัวอย่างในการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกที่เกี่ยวข้องในการทำงานกำกับดูแลความปลอดภัยด้านอาหาร พบว่ามีข้อเสนอ 6 กลไก การพัฒนาประสิทธิภาพของการกำกับดูแลด้านอาหารที่มอบอำนาจให้จังหวัด ได้แก่ 1. กำหนดนโยบายโดยการมีส่วนร่วมของ สสจ. และการสื่อสารทั่วทั้งองค์กร 2. ออกกฎหมายแบบมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ สสจ. 3. มอบอำนาจให้จังหวัดมีในการอนุญาตสถานที่ผลิตและเก็บอาหารทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่รับผิดชอบ 4. กำกับดูแลหลังออกสู่ตลาดที่มีการสื่อสารหลักเกณฑ์แนวทางการปฏิบัติ และเพิ่มกรอบอัตรากำลังในตำแหน่งนักวิชาการอาหารและยา และนิติกร 5. พัฒนาระบบฐานข้อมูลและเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบการกำกับดูแลหลังออกสู่ตลาด มีระบบการปฏิบัติงานและฐานข้อมูลความรู้ทางวิชาการให้เจ้าหน้าที่ 6. สร้างเครือข่ายกำกับดูแลก่อนและหลังออกสู่ตลาด ทั้งเครือข่ายวิชาการ มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาในเขตพื้นที่เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการและประชาชนให้มีองค์ความรู้ และเครือข่ายผู้บริโภคภาคประชาชน องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อเป็นเครือข่ายตรวจสอบและให้ความรู้แก่ประชาชน


สรุป: สถานการณ์และสภาพปัญหาสำคัญได้แก่ความรู้และความเชี่ยวชาญของบุคลากรในส่วนภูมิภาค การมอบอำนาจอนุญาตแบบเบ็ดเสร็จในอนาคตจะทำให้การคุ้มครองผู้บริโภคมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกลไกการทำงานได้แก่ การกำหนดนโยบาย การพัฒนากฎหมาย การจัดทำ SOP คู่มือประชาชนในการพิจารณาอนุญาต การจัดทำหลักเกณฑ์การดำเนินงานด้านการกำกับดูแลหลังออกสู่ตลาด นอกจากนี้ควรมีระบบฐานข้อมูลและการเชื่อมโยงข้อมูลที่มีความถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายผู้บริโภค ทั้งด้านวิชาการและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดการทำงานที่ครอบคลุมทุกมิติและมีประสิทธิภาพ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
ขาวพลศรี ญ. กลไกการเพิ่มประสิทธิภาพระบบกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อาหารของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อมอบอำนาจเพิ่มเติมในส่วนภูมิภาค. TFDJ [อินเทอร์เน็ต]. 28 ตุลาคาม 2024 [อ้างถึง 25 ธันวาคม 2025];31(3):74-90. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/fdajournal/article/view/274874
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522. ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่มที่ 96, ตอนที่ 79 (ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2522).

กระทรวงสาธารณสุข. กฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2563. ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 137, ตอนที่ 8 ก (ลงวันที่ 29 มกราคม 2563)

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาที่ 23/2536 เรื่อง มอบอำนาจเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ตามกฎหมายว่าด้วยอาหารให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้อนุญาต.

นฤมล ฉัตรสง่า. การพัฒนาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพงานกำกับดูแลก่อนออกสู่ตลาดด้านอาหารของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด. วารสารอาหารและยา [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 1 กรกฎาคม 2567]; 29 (2) : 67-81. เข้าถึงได้จาก: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/fdajournal/article/view/258181/174148

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาที่ 425/2564 เรื่อง มอบอำนาจเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ตามกฎหมายว่าด้วยอาหารให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้อนุญาต (ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2564).

ประไพพิมพ์ สุธีวสินนท์, ประสพชัย พสุนนท์. กลยุทธ์การเลือกตัวอย่างสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ. วารสารปาริชาติ มหาวิทยาลัยทักษิณ 2559; 29(2):31-48.

กระทรวงสาธารณสุข. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 436) พ.ศ. 2565 ออกตามความพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522. ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 139, ตอนที่ 209 ง (ลงวันที่ 9 กันยายน 2565).

กมลนัฐพัฒ อุตราภรณ์. แนวทางการพัฒนาระบบการคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหาร. นนทบุรี: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา; 2566

พาฝัน กิติเงิน. สถานการณ์องค์ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์อาหารของเจ้าหน้าที่ในส่วนภูมิภาค. นนทบุรี: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา; 2565