ความคิดเห็นของบุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชนต่อการให้บริการขายยาออนไลน์ของร้านขายยาไทยในยุควิถีใหม่

Main Article Content

อรัญญา เทพพิทักษ์

บทคัดย่อ

ความสำคัญ: ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อันเป็นผลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2563 พบผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้ารวมไปถึงผลิตภัณฑ์ยาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น แต่กฎหมายไทยไม่อนุญาตให้ขายยาออนไลน์ ขณะที่กฎหมายบางประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา อนุญาตร้านขายยาออนไลน์ได้ ภายใต้เงื่อนไขหรือมีกฎหมายเฉพาะควบคุม กำกับ การกระจายยา ดังนั้นหากจะปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับยุควิถีชีวิตใหม่ จึงต้องศึกษาผลกระทบทั้งด้านบวกและลบ เพื่อจัดทำมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหา


วัตถุประสงค์: เพื่อสำรวจความคิดเห็นและมุมมองของบุคลากรทางด้านสาธารณสุขและประชาชนทั่วไป ที่มีต่อการให้บริการด้านสุขภาพของร้านขายยาในรูปแบบการให้บริการและขายยาผ่านแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์


วิธีการวิจัย: เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (survey research)  โดยใช้แบบสอบถาม Google Form กลุ่มเป้าหมาย       บุคลากรด้านสาธารณสุข และประชาชน  เวลาสำรวจ 8 วัน ใช้สุ่มตัวอย่างแบบตามสะดวก จำนวน 400 ตัวอย่าง ที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 95%  โดยเก็บตัวอย่างได้ 711 ตัวอย่าง


ผลการศึกษา: สรุปดังนี้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป มีผู้ตอบแบบสำรวจ 711 คน เป็นเพศชาย ร้อยละ 27.43  เพศหญิง ร้อยละ 69.76 ไม่ระบุเพศ ร้อยละ 2.81 อยู่ในช่วงอายุ 30-50 ปี ร้อยละ 61.32 ศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 60.76  ส่วนที่ 2 การสำรวจความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมายการขายยาแผนปัจจุบัน ซึ่งร้อยละ 84.39 ทราบว่าการขายยาแผนปัจจุบันต้องได้รับใบอนุญาตฯ มีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ และปัจจุบันไม่อนุญาตให้ขายยาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์  ส่วนที่ 3 พฤติกรรมทั่วไปในการเลือกซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ พบมีผู้เคยซื้อสินค้าร้อยละ 75.53 และเคยซื้อยาร้อยละ 22.22 โดยช่วงอายุ 30-40 ปีซื้อมากที่สุด ร้อยละ 80.45 เมื่อเรียงลำดับความนิยมแพลตฟอร์มพบว่าเป็น Shopee มากที่สุด ร้อยละ  63.99  ซึ่งปัจจัยที่คนส่วนใหญ่คำนึงถึงก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า/บริการ คือ ปัจจัยด้านราคา ร้อยละ  81.15 ส่วนที่ 4 ความคิดเห็นในการปรับแก้ไขกฎหมาย พบว่า ร้อยละ 68.35 เห็นด้วย โดยผลกระทบด้านบวกที่เลือกมากที่สุดคือการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง ส่วนผลกระทบด้านลบที่เลือกมากที่สุด คือการเพิ่มความเสี่ยงต่อการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด  ส่วนเงื่อนไขที่จำเป็นมากที่สุดในการควบคุม กำกับ คือการกำหนดกรอบรายการยาที่ไม่อนุญาตให้ขาย


สรุป: ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เป็นเภสัชกรและประชาชน โดยกลุ่มตัวอย่าง 2 ใน 3 เห็นด้วยกับการอนุญาตให้ขายยาผ่านแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ โดยมีข้อเสนอแนะ เช่น การจัดระบบตรวจสอบ ยืนยันตัวตนและการปฏิบัติหน้าที่ของเภสัชกร การจัดประเภทรายการยาที่ขายได้ หรือแพลตฟอร์มที่ใช้ควรออกแบบเฉพาะเจาะจง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
เทพพิทักษ์ อ. ความคิดเห็นของบุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชนต่อการให้บริการขายยาออนไลน์ของร้านขายยาไทยในยุควิถีใหม่. TFDJ [อินเทอร์เน็ต]. 15 มีนาคม 2022 [อ้างถึง 25 ธันวาคม 2025];29(1):17-30. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/fdajournal/article/view/255198
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

1.รัชดา โตอนันต์, ธนศักดิ์ ประเสริฐสาร. โควิด-19 โคโรนาไวรัส สงครามที่มองไม่เห็น. วารสารอาหารและยา 2563;27(2):4-12

2.สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. ข่าวประชาสัมพันธ์: ETDA เผยมูลค่า e-Commerce ไทย ปี 62 คาดพุ่ง 4.02 ล้านล้านบาท [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์; 2563 [เข้าถึงเมื่อ 16 ก.ย. 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://www.etda.or.th/th/https/www-etda-or-th/th/newsevents/pr/Value-of-e-Commerce-Survey-in-Thailand-2019.aspx

3.ประกาย หมายมั่น. การสำรวจการขายยาผ่านเว็ปไซต์ขายสินค้าซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศไทย. วารสารเภสัชกรรมไทย 2561;11(2):368-377.

4.สรุปผลการดำเนินคดีการโฆษณาขายยาทางสื่อออนไลน์ (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 จนถึง 30 เมษายน 2564). นนทบุรี: ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา; 2564.

5.กองส่งเสริมงานคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น. รวมพระราชบัญญัติที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. กรุงเทพฯ: หกหนึ่งเจ็ด; 2562.

6.พนิตนาฏ คำนุ้ย. การโฆษณาขายยาออนไลน์ที่ผิดกฎหมายและมาตรการดำเนินการ. วารสารอาหารและยา 2562;26(3):41-52.

7.Schultz B. Online pharmacy regulation: how the Ryan Haight online pharmacy consumer protection act can help solve an international problem. San Diego International Law Journal [Internet]. 2015 [cited 2021 Apr 13]; 16(2):381-415. Available from: https://digital.sandiego.edu/cgi/viewcontent.cgi?article=1033&context=ilj

8.Alwon BM. A detailed analysis of online pharmacy characteristics to inform safe usage by patients.International Journal of Clinical Pharmacy [internet].2015 [ cited 2021 April 13] ;37 (1) :148–158 .Available from:https://ueaeprints.uea.ac.uk/id/eprint/51755/1 On_line_pharmacy_research._10.1007_s11096_014_0056_1.pdf

9.Yamane T. Statistics: an Introductory analysis. 2nd ed. New York: Harper and Row; 1967.

10.Likert RA. New patterns of management. New York: McGraw-Hill Book; 1961.

11.สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. ข่าวประชาสัมพันธ์: ETDA เผยผลสำรวจ IUB 63 คนไทยใช้เน็ตปังไม่ไหวเกินครึ่งวัน โควิด-19 มีส่วน [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์; 2564 [เข้าถึงเมื่อ 16 ก.ย. 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://www.etda.or.th/th/newsevents/pr-news/ETDA-released-IUB-2020.aspx

12.จุฑารัตน์ เกียรติรัศมี. ปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อสินค้าผ่านทางแอพพลิเคชั่นออนไลน์ของผู้บริโภค ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล [ปริญญาโท]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2558.

13.Deepika, et al. Status of e-pharmacy in India: a review. Plant Archives [Internet]. 2020 [cited 2021, Apr 13]; 20(1):3763-3767. Available from: http://www.plantarchives.org/SPECIAL%20ISSUE%2020-1/231__3763-3767_.pdf

14.พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537. ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 111, ตอนที่ 28 ก (ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2537).

15.สภาเภสัชกรรม. ประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ 56/2563 เรื่อง การกำหนดมาตรฐานและขั้นตอนการให้บริการเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy). (ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2563).