ความรู้ของกลุ่มเกษตรกรไทยในการเป็นผู้ขอรับอนุญาตปลูกกัญชา
Main Article Content
บทคัดย่อ
ความสำคัญ: พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 กำหนดให้สามารถนำกัญชามาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ การรักษาผู้ป่วย และการศึกษาวิจัยได้ โดยกลุ่มเกษตรกรมาจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร ซึ่งเป็นกลุ่มหนึ่งที่มีคุณสมบัติในการขอรับอนุญาตปลูกกัญชาได้
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความรู้ของเกษตรกรในการขอรับอนุญาตปลูกกัญชาตามกฎหมาย และปัญหาและข้อเสนอแนะเมื่อต้องการปลูกกัญชา
วิธีการวิจัย: เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามชนิดตอบด้วยตนเอง ประกอบด้วยคำถามเกี่ยวกับความรู้ด้านกฎหมายในการเป็นผู้ขอรับอนุญาตปลูกกัญชา จำนวน 15 ข้อ กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มตามความสะดวกจากผู้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการปลูกกัญชา ในวันที่ 29-30 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร รวม 231 คน มีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 151 คน คิดเป็นอัตราการตอบกลับ ร้อยละ 65.37
ผลการศึกษา: ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 68.21 มีการศึกษาระดับปริญญาตรี ร้อยละ 84.77 เป็นเกษตรกรที่อยู่ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ร้อยละ 43.36 มีตำแหน่งเป็นประธานในวิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์การเกษตร ร้อยละ 43.36 ผลการประเมินความรู้ พบว่า มีผู้ตอบคำถามถูกต้องที่ได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 50 ( 8 ข้อขึ้นไป) ร้อยละ 29.80 โดยคำถามที่ตอบไม่ถูกต้องมากกว่าร้อยละ 85 คือคำถามในเรื่อง การอนุญาตให้ปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น ร้อยละ 98.68 รายละเอียดการจัดทำป้ายแสดงว่าเป็นสถานที่ผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ร้อยละ 90.73 การจัดให้มีการสุ่มตรวจวิเคราะห์กัญชาที่ผลิตได้ ร้อยละ 86.09 และการตรวจวิเคราะห์เพื่อหาสารปนเปื้อน ร้อยละ 85.43 ส่วนข้อจำกัดหรืออุปสรรคต่อการเป็นผู้ขอรับอนุญาตปลูกกัญชา คือ กฎหมายไม่เอื้อต่อการดำเนินการ การขออนุญาตมีรายละเอียดมาก
สรุป: กลุ่มเกษตรกรไทยอิสระ และกลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์การเกษตรซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติในการยื่นคำขอรับอนุญาตปลูกกัญชา ยังมีความรู้ด้านกฎหมายในการเป็นผู้ขอรับอนุญาตปลูกกัญชาไม่ถูกต้อง จึงควรพัฒนาคู่มือการขอรับอนุญาตปลูกกัญชาสำหรับกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
องค์การเภสัชกรรม. คู่มือเอกสารเกี่ยวกับกัญชา. ข้อมูลกัญชาทางการแพทย์ในต่างประเทศ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ. [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 29 เม.ย. 2563]; 1-27. เข้าถึงได้จาก : https://www2.gpo.or.th/Default.aspx?tabid=414
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562. ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 136, ตอนที่ 19 ก (ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562).
วิฑูรย์ ปัญญากุล. คู่มือสำหรับเกษตรกร การปลูกกัญชาทางการแพทย์แบบเกษตรอินทรีย์. [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 29 เม.ย. 2563]; 54. เข้าถึงได้จาก : https://www.greennet.or.th/1908-th-fda-canabis/
สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี. คำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา วันที่ 25 กรกฎาคม 2562. [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 29 เม.ย. 2563];31. เข้าถึงได้จาก : https://www.thaigov.go.th/uploads/document/66/2019/07/pdf/Doc_20190725085640000000.pdf
เทคโนโลยีชาวบ้าน. เด่นวันนี้. เกษตรฯ พร้อมจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน “กัญชา” ภายใต้เงื่อนไขไม่ขัดต่อกฎหมาย. [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 29 เม.ย. 2563]; 1-4. เข้าถึงได้จาก : https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_118498
กองควบคุมวัตถุเสพติด. คู่มือแนวทาง. แนวทางการปฏิบัติด้านการจัดเตรียมสถานที่การเก็บรักษาและการควบคุมการใช้สำหรับผู้ขอรับอนุญาตปลูกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา. [อินเทอร์เน็ต]. 2562 [เข้าถึงเมื่อ 29 เม.ย. 2563]; 1-4. เข้าถึงได้จาก : http://cannabis.fda.moph.go.th/manual-2/entrepreneur-farm/
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 29 เม.ย. 2563]; 17-19. เข้าถึงได้จาก : https://drive.google.com/file/d/1Ik7Gx98BZPgHqb5Ax_oCCitTkUSwU6sd/view