การพัฒนากลไกแก้ไขปัญหาขาดแคลนวัตถุเสพติดที่จำเป็นทางการแพทย์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การขาดแคลนวัตถุเสพติดที่จำเป็นทางการแพทย์ส่งผลกระทบสูงต่อสุขภาพของผู้ป่วย เช่น การขาดยาฉีด
Lorazepam และ Phenobarbital มีการแก้ไขเป็นแต่ละกรณี ซึ่งไม่ทันกับความจำเป็นของผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาเพื่อควบคุมอาการชักต่อเนื่องจนทำให้เสียชีวิตได้ จึงจำเป็นต้องพัฒนากลไกแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุเสพติดที่จำเป็นทางการแพทย์ โดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลไกการจัดการปัญหาการขาดแคลนยาและวัตถุเสพติดจำเป็นทางการแพทย์ในต่างประเทศเปรียบเทียบกับในประเทศไทย แล้วนำมาใช้ในการพัฒนาเพื่อให้ได้กลไกที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุเสพติดที่จำเป็นทางการแพทย์สำหรับประเทศไทย ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยความสำเร็จของกลไกการจัดการปัญหาการขาดแคลนยา มี 5 องค์ประกอบได้แก่ นโยบายของรัฐที่ชัดเจนต่อเนื่อง กฎหมายที่เหมาะสม ขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่ครบวงจร การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลไกการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุเสพติดที่จำเป็นทางการแพทย์ที่เหมาะสมของประเทศไทย ประกอบด้วย บัญชีรายการวัตถุเสพติดที่จำเป็นทางการแพทย์
และกระบวนการจัดการปัญหาการขาดแคลนทั้งในกรณีปกติ ฉุกเฉิน และผู้ป่วยเฉพาะราย การนำกลไกไปสู่
การปฏิบัติมีข้อเสนอแนะที่ต้องดำเนินการ ดังนี้ (1) พัฒนานโยบาย กฎหมายและโครงสร้างรองรับการแก้ปัญหา
การขาดแคลน โดยประกาศนโยบายและปรับปรุงให้เป็นพันธกิจของหน่วยงานรับผิดชอบภายในสำนักงาน
คณะกรรมการอาหารและยาเพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง (2) แก้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหา
การขาดแคลนวัตถุเสพติด (3) ปรับปรุงกระบวนการอนุญาตให้มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การพัฒนาช่องทางเร่งด่วน
ในการขึ้นทะเบียนวัตถุเสพติดขาดแคลน มีช่องทางพิเศษในการเข้าถึงวัตถุเสพติดสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
(4) ปรับปรุงบัญชีรายการวัตถุเสพติดตามกฎหมายให้ทันสมัย โดยมีช่องทางที่ชัดเจนให้แพทย์และผู้ป่วยเสนอ
รายการวัตถุเสพติดที่จำเป็น (5) จัดหาวัตถุเสพติดในภาวะฉุกเฉิน โดยกลุ่มเงินทุนหมุนเวียนยาเสพติด ตลอดจน
การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสาร ได้แก่ เว็บไซต์ยาขาดแคลน ฐานข้อมูลแหล่งผลิตจำหน่ายวัตถุเสพติดสำรอง
ในต่างประเทศ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2.สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักยา.รายงานการพัฒนาระบบยาแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2557. 2557: 12-33.
3.U.S.Food and drug administration, Department of health and human service. Report on drug shortages for calendar year 2017. [internet]. 2018 [cited 2018 Nov15]. Available from: https://www.fda.gov/downloads/Drugs/DrugSafety/DrugShortages/UCM610662.pdf
4.FDA drug shortage. [Internet]. New Hampshire WebMD;20993 [updated 2018 Nov 21; cited
2018 Nov 25]. Available from: www.accessdata.fda.gov/scripts/drugshortages
5.U.S.Drug Enforcement Administration. DEA proposes reduction to amount of controlled
substances to be manufactured in 2018. [internet]. 2018 [cited 2018 Nov15]. Available
from: www.dea.gov/divisions/hq/2017/hq08417.shtml
6.The Society of Hospital Pharmacists of Australia. Medicine shortages in Australia: A snapshot of shortages in Australian hospitals.2017;1-17.
7.Therapeutic Goods Administration. Management and communication of medicine shortages and discontinuations in Australia. [internet]. 2018 [cited 2018 Nov30]. Available from: https://www.tga. gov.au/ sites/default/files/management-and-communicationmedicine shortages-and discontinuationsaustralia.
8.พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม [อินเตอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 20
กุมภาพันธ์ 2562]. เข้าถึงได้จาก: http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%C207/%C207-20-9999-update.pdf
9.พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559. [อินเตอร์เน็ต]. 2559. [เข้าถึงเมื่อ 30
ตุลาคม 2561]. เข้าถึงได้จาก: http://web.krisdika.go.th/lawHeadContent.jsp?fromPage=law
HeadContent&formatFile=htm&hID=0