การศึกษาคุณภาพเครื่องสำอางผสมสมุนไพรของเขตสุขภาพที่ 9
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในปัจจุบันมีกระแสการตื่นตัวเรื่องสุขภาพและความนิยมใช้หรือบริโภคสารที่เป็นธรรมชาติ ทำให้สมุนไพรกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ดังจะเห็นได้จากมูลค่าของผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้ภายในประเทศและส่งออกมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี อีกทั้งมีวิวัฒนาการนำเอาสมุนไพรมาเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางในรูปแบบต่างๆ เช่น โลชั่น ครีม เจล เป็นต้น ซึ่งผลิตเป็นเครื่องสำอางหลายประเภท เช่น แชมพู สบู่เหลว ครีมบำรุงผิว ยาสีฟัน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค แต่ผู้ผลิตที่ขาดคุณธรรมมักจะผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากคุณภาพของเครื่องสำอางจะขึ้นอยู่กับความคงตัวของสารสกัดจากสมุนไพรอันเป็นผลจากปริมาณของสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมและกรรมวิธีผลิต เพราะสมุนไพรบางชนิดเมื่อนำมาแปรสภาพจะทำให้สารสำคัญสลายไปได้ ดังนั้น สมุนไพรจึงเป็นวัตถุดิบที่มีความสำคัญยิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการควบคุมคุณภาพเพื่อลดความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อันเกิดจากสิ่งแปลกปลอมหรือการปนเปื้อนใดๆ และเพื่อให้ได้เครื่องสำอางผสมสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพ
ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผสมสมุนไพรของ เขตสุขภาพที่ 9 ขึ้น เพื่อเป็นการสำรวจคุณภาพของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผสมสมุนไพร โดยอ้างอิงมาตรฐานคุณภาพเครื่องสำอางตามประกาศ กระทรวงสาธารณสุข (29 กุมภาพันธ์ 2559) เรื่อง กําหนดลักษณะของเครื่องสําอางที่ห้ามผลิต นําเข้า หรือขาย รวมถึงสร้างและพัฒนาเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดที่รับผิดชอบ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มารวบรวม สรุป และหาแนวทางในการพัฒนาคุณภาพของเครื่องสำอางดังกล่าว โดยดำเนินงานในปีงบประมาณ 2559 - 2560 ทั้งสิ้น 42 ตัวอย่าง พบว่า 36 ตัวอย่าง มีคุณภาพตามมาตรฐาน ส่วนเครื่องสำอางผสมสมุนไพรที่ผิดมาตรฐานนั้น พบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ (จำนวนรวมของแบคทีเรีย ยีสต์และราที่เจริญเติบโตโดยใช้อากาศ) จำนวน 6 ตัวอย่าง (6/6) ทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแหล่งผลิตฯ/ แหล่งแปรรูปวัตถุดิบ และถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตที่ดี (Good Manufacturing Practices: GMP) จำนวน 2 แห่ง ได้แก่แหล่งผลิตฯ ชุมชน (Community Production:CP) และแหล่งผลิตฯ เอกชน (Private Production:PP) ในจังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากทั้ง 2 แห่ง เป็นแหล่งผลิตฯ ที่มีความพร้อมและสามารถที่จะพัฒนาการผลิตให้มีคุณภาพตามมาตรฐานต่อไปได้