การสำรวจปัจจัยที่มรผลในการตัดสินใจและพฤติกรรมการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของประชาชนในจังหวัดตาก

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลในการตัดสินใจและพฤติกรรมการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของประชาชนในจังหวัดตาก โดยใช้แบบสอบถามชนิดตอบด้วยตนเองในกลุ่มตัวอย่างที่ได้จากการสุ่มแบบบังเอิญ จำนวน 400 คน ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2559 และมีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS สถิติที่ใช้ คือ ค่าความถี่ (ร้อยละ) และค่า Chi-square ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลการสำรวจ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 75.75) อาชีพรับราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ (ร้อยละ 30.50) มีระดับการศึกษาต่ำกว่าอนุปริญญา (ร้อยละ 53.50) มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท (ร้อยละ 31.50) นอกจากนี้ พบว่า ปัจจัยด้านราคามีความสำคัญในระดับมากต่อการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ส่วนปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจำหน่ายและด้านการส่งเสริมการขาย พบว่า มีความสำคัญระดับปานกลางถึงมาก โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อบำรุงผิว (ร้อยละ 22.50) ที่ห้างสรรพสินค้า (ร้อยละ 31.30) และซื้อผลิตภัณฑ์เดือนละ 1 ครั้ง (ร้อยละ 83.30) เมื่อผลิตภัณฑ์เดิมหมด(ร้อยละ 75.80) และรับรู้ข้อมูลจากโทรทัศน์เป็นหลัก (ร้อยละ 41.50)

เมื่อวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ พบว่า ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกันมีผลต่อปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย/สถานที่ และด้านการส่งเสริมการขาย ส่วนอายุที่แตกต่างกันมีผลเฉพาะต่อปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value ≤ 0.05) นอกจากนี้ พบว่า ปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้านผลิตภัณฑ์และด้านราคามีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value ≤ 0.05) ทั้งชนิดของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง แหล่งที่จำหน่าย มูลค่าการซื้อต่อครั้ง เหตุผลในการซื้อ และแหล่งข้อมูลผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ดังนั้นข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนให้ความรู้และประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวมถึงการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางตามแหล่งที่จำหน่ายต่อไป