รูปแบบการพัฒนาร้านชำแบบชุมชนมีส่วนร่วม ต.โพนสูง จ.สกลนคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ร้านชําาจําาหน่ายยาได้เฉพาะยาสามัญประจําาบ้าน
จากการส
ําารวจการกระจายยาในหมู่บ้านของลือชัย ศรีเงินยวง (2543) จ
ําานวน 195 หมู่บ้าน พบมีการจ
ําาหน่าย
ยาอันตรายในทุกหมู่บ้าน (100%) ส่วนใหญ่เป็นยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และ ยาปฏิชีวนะ
(Antibiotics) ประชาชนเสี่ยงต่ออันตรายจากการใช้ยา ท
ําาให้เกิดการดื้อยา เป็นการใช้ยาอย่างไม่สมเหตุสมผล
และเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและทดลองรูปแบบร้านช
ําา
ปลอดยาอันตราย โดยความร่วมมือระหว่างชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานบริการสาธารณสุข และสถาบัน
การศึกษา รูปแบบวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนในต
ําาบลโพนสูง องค์การบริหาร
ส่วนตําาบลโพนสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําาบลยางชุม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน และ
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมประชุมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาด้านยาและ
แหล่งกระจายยาในชุมชน การแก้ไขปัญหา เพื่อน
ําาไปสู่แนวทางในการพัฒนารูปแบบร้านช
ําาปลอดยาอันตรายแบบชุมชน
มีส่วนร่วม ระยะเวลา เมษายน–ธันวาคม 2556 ผลการศึกษาพบว่า สิ่งที่ชุมชนมองว่าเป็นปัญหา คือ การโฆษณา
โอ้อวดสรรพคุณของน
ํา
้าสมุนไพรและอาหาร การอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงของยา ไปร้านยาไม่พบเภสัชกร
ความเข้าใจว่ายาโรงพยาบาลไม่ดีเท่ายาชุด ยาชุดในชุมชน ร้านช
ําาจ ําาหน่ายยาอันตราย และความเข้าใจของ
รถเร่และคนเดินเร่ขายยา ชุมชนต้องการได้รับความรู้เรื่องการใช้ยาอย่างถูกต้อง สมเหตุสมผล อันตรายของยาชุด
ยาสเตียรอยด์ ผลเสียจากการซื้อยาอันตรายจากร้านช
ําา ข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้อง การให้ความรู้และ
ขอความร่วมมือไม่จ
ําาหน่ายยาอันตรายของร้านช
ําา และจัดกิจกรรมศึกษาดูงานกองทุนยาเพื่อน
ําามาใช้พัฒนา
รูปแบบของร้านช
ําาในชุมชน สรุปผลการศึกษา การใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนท
ําาให้เกิดการแก้ไขปัญหา
ที่มาจากชุมชน และมีการพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาของชุมชน นําาไปสู่การเป็นร้านชําาปลอดยาอันตราย
ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข คือ การรณรงค์และให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง พัฒนาผู้ประกอบการร้านช
ําา
ไม่ให้จําาหน่ายยาอันตรายโดยการจัดทําาโครงการศึกษาดูงานจากกองทุนยา
จากการส
ําารวจการกระจายยาในหมู่บ้านของลือชัย ศรีเงินยวง (2543) จ
ําานวน 195 หมู่บ้าน พบมีการจ
ําาหน่าย
ยาอันตรายในทุกหมู่บ้าน (100%) ส่วนใหญ่เป็นยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และ ยาปฏิชีวนะ
(Antibiotics) ประชาชนเสี่ยงต่ออันตรายจากการใช้ยา ท
ําาให้เกิดการดื้อยา เป็นการใช้ยาอย่างไม่สมเหตุสมผล
และเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและทดลองรูปแบบร้านช
ําา
ปลอดยาอันตราย โดยความร่วมมือระหว่างชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานบริการสาธารณสุข และสถาบัน
การศึกษา รูปแบบวิจัยเชิงปฏิบัติการโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนในต
ําาบลโพนสูง องค์การบริหาร
ส่วนตําาบลโพนสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําาบลยางชุม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน และ
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมประชุมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาด้านยาและ
แหล่งกระจายยาในชุมชน การแก้ไขปัญหา เพื่อน
ําาไปสู่แนวทางในการพัฒนารูปแบบร้านช
ําาปลอดยาอันตรายแบบชุมชน
มีส่วนร่วม ระยะเวลา เมษายน–ธันวาคม 2556 ผลการศึกษาพบว่า สิ่งที่ชุมชนมองว่าเป็นปัญหา คือ การโฆษณา
โอ้อวดสรรพคุณของน
ํา
้าสมุนไพรและอาหาร การอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงของยา ไปร้านยาไม่พบเภสัชกร
ความเข้าใจว่ายาโรงพยาบาลไม่ดีเท่ายาชุด ยาชุดในชุมชน ร้านช
ําาจ ําาหน่ายยาอันตราย และความเข้าใจของ
รถเร่และคนเดินเร่ขายยา ชุมชนต้องการได้รับความรู้เรื่องการใช้ยาอย่างถูกต้อง สมเหตุสมผล อันตรายของยาชุด
ยาสเตียรอยด์ ผลเสียจากการซื้อยาอันตรายจากร้านช
ําา ข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้อง การให้ความรู้และ
ขอความร่วมมือไม่จ
ําาหน่ายยาอันตรายของร้านช
ําา และจัดกิจกรรมศึกษาดูงานกองทุนยาเพื่อน
ําามาใช้พัฒนา
รูปแบบของร้านช
ําาในชุมชน สรุปผลการศึกษา การใช้รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนท
ําาให้เกิดการแก้ไขปัญหา
ที่มาจากชุมชน และมีการพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาของชุมชน นําาไปสู่การเป็นร้านชําาปลอดยาอันตราย
ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข คือ การรณรงค์และให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง พัฒนาผู้ประกอบการร้านช
ําา
ไม่ให้จําาหน่ายยาอันตรายโดยการจัดทําาโครงการศึกษาดูงานจากกองทุนยา
Article Details
รูปแบบการอ้างอิง
1.
ภูผาลี ธ, อาภาศรีทองสกุล ส, ยิ่งยอด ว, แสงสุวรรณ ต, อำมาตย์ ล. รูปแบบการพัฒนาร้านชำแบบชุมชนมีส่วนร่วม ต.โพนสูง จ.สกลนคร. TFDJ [อินเทอร์เน็ต]. 8 สิงหาคม 2018 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];21(3):57-63. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/fdajournal/article/view/139069
ประเภทบทความ
รายงานการวิจัย