การพัฒนาระบบการเตือนในการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดในหญิงหลังคลอด แผนกสูติกรรม โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

ผู้แต่ง

  • สงเคราะห์ บอส โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

คำสำคัญ:

ภาวะตกเลือดหลังคลอด , หญิงหลังคลอด , ระบบการเตือนในการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอด

บทคัดย่อ

การวิจัยและการพัฒนามีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการเตือนในการป้องกันการตกเลือดหลังคลอด และประเมินประสิทธิผล แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1) ศึกษาข้อมูลย้อนหลังสถานการณ์และปัญหาทางการพยาบาลโดยการวิจัยเชิงปริมาณ 2) พัฒนาระบบการเตือนและ 3) ประเมินผลการพัฒนาระบบการเตือน โดยการวิจัยกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง แบ่งเป็น 1) พยาบาลที่ให้การดูแลมารดาหลังคลอดในแผนกสูติกรรมหลังคลอด 12 ราย 2) มารดาหลังคลอด 250 ราย แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 125 ราย กลุ่มทดลอง 125 ราย เครื่องมือวิจัย ได้แก่ 1) แบบบันทึกสัญญาณเตือนการตกเลือดหลังคลอด 2) แบบประเมินความรู้เรื่องการตกเลือดหลังคลอด 3) แบบประเมินการหดรัดตัวของมดลูก 4) แบบประเมินการนวดมดลูก ตรวจสอบความตรงของเนื้อหา ค่า IOC ระหว่าง 0.85 -1 หาความเชื่อมั่นของเครื่องมือวิจัย ได้ค่า 0.83, 0.86, 0.81 และ 0.82 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติทีคู่ และสถิติทีอิสระ

ผลการวิจัยพบว่า ระบบการเตือนในการป้องกันภาวะการตกเลือดหลังคลอด ได้แก่ การได้รับความรู้การฝึกคลึงมดลูก และบันทึกสัญญาณเตือนการตกเลือดหลังคลอดร่วมกับการประเมินการหดรัดตัวของมดลูกช่วงรับและส่งเวร ภายหลังการพัฒนาระบบพบว่า คะแนนเฉลี่ยความรู้และการปฏิบัติการนวดคลึงมดลูกหลังการพัฒนาระบบสูงกว่าก่อนการพัฒนาระบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 การสูญเสียเลือด
หลังคลอดที่ 24 ชั่วโมง ของกลุ่มทดลองมีปริมาณการสูญเสียเลือดเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และไม่พบภาวะตกเลือดหลังคลอด ดังนั้นการพัฒนาระบบการเตือนดังกล่าวสามารถป้องกันการตกเลือดหลังคลอดได้

เอกสารอ้างอิง

กรมอนามัย. (2566). ระบบเฝ้าระวังมารดาตาย. สำนักส่งเสริมสุขภาพ. https://hp.anamai.moph.go.th/th/maternal-mortality-ratio?textSearch

เจนีวา ทะวา. (2566). อุบัติการณ์และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการตกเลือดหลังคลอด ในโรงพยาบาลสิงหนคร จังหวัดสงขลา. โรงพยาบาลสิงหนคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา.

พรทิพย์ คนึงบุตร, สุจิตรา โอฬารกิจวานิช, ฐิติรัตน์ น้อยเกิด, และกันทิมา ขาวเหลือง. (2565). การพัฒนาระบบบริการพยาบาลผู้คลอดเพื่อป้องกันและดูแลมารดาที่มีภาวะตกเลือดหลังคลอดในจังหวัดปทุมธานี. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 16(1), 63-75.

พิกุล บัณฑิตพานิชชา, นงลักษณ์ พลแสน, และสุภาวดี เหลืองขวัญ. (2560). การพัฒนาระบบการพยาบาลในการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอด. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์, 32(2), 131-144.

เพชรากรณ์ ทองสตา. (2563). กรณีศึกษา: การพยาบาลมารดาที่มีภาวะตกเลือดระยะหลังคลอด โรงพยาบาลกาฬสินธุ์. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 13(2), 106-114.

ภคินี ขุนเศรษฐ์. (2564). การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลในการป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรกในมารดาที่คลอดทางช่องคลอด โรงพยาบาลสงขลา. วารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข, 1(2), 83-99.

ลัดดาวัลย์ ปลอดฤทธิ์, สุชาตา วิภวกานต์, และอารี กิ่งเล็ก. (2559). การพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรกในห้องคลอด โรงพยาบาลกระบี่. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 3(3), 127-41.

ศิริภรณ์ ปิ่นโพธิ์, และสมพร วัฒนนุกูลเกียรติ. (2564). การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะตกเลือด 2-24 ชั่วโมงหลังคลอด แผนกสูติกรรม โรงพยาบาลขอนแก่น. ใน บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น, การประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 22. (หน้า 134-147). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สงเคราะห์ บอส, สุพัตรา ยาหลง, และสุมิตรา ยศปัญญา. (2564). ผลการพัฒนาเครื่องมือการประเมินการหดรัดตัวของมดลูกต่อปริมาณการสูญเสียเลือดและอัตราการตกเลือดหลังคลอด ในหอผู้ป่วยสูติกรรมหลังคลอด. เพชรบูรณ์เวชสาร, 1(1), 67-76.

สุพัตรา ยาหลง. (2557). การค้นหาสัญญานเตือน (triggers) ที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะตกเลือดในหอผู้ป่วยหลังคลอด. โรงพยาบาลเพชรบูรณ์.

สุภาวดี เหลืองขวัญ, บังอร ตุพิมาย, ศิริพร ชมงาม, และธารินี ลอยเด่น. (2564). การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลทางคลินิกเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรกในมารดาที่คลอดทางช่องคลอด โรงพยาบาลบุรีรัมย์. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์, 36(3), 617-629.

World Health Organization (WHO). (2020). Maternal mortality. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/maternal-mortality

กรอบแนวคิดการวิจัย

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-30

รูปแบบการอ้างอิง

บอส ส. . (2025). การพัฒนาระบบการเตือนในการป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดในหญิงหลังคลอด แผนกสูติกรรม โรงพยาบาลเพชรบูรณ์. ราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์, 15(1), 152–164. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/bcnsurin/article/view/277107

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย