ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดื่มไม่ขับ ของวัยรุ่นชาย ตำบลหลักเขต จังหวัดบุรีรัมย์
คำสำคัญ:
พฤติกรรมดื่มไม่ขับ , ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม , วัยรุ่นชายบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดื่มไม่ขับ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดื่มไม่ขับของวัยรุ่นชาย กลุ่มตัวอย่างเป็นวัยรุ่นชายที่มีภูมิลำเนาในตำบลหลักเขต จังหวัดบุรีรัมย์ อายุระหว่าง 15-24 ปี ที่ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ จำนวน 250 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ และการวิเคราะห์การถดถอยโลจีสติก
ผลการศึกษาพบว่า 1) พฤติกรรมการดื่มไม่ขับ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมากลุ่มตัวอย่างไม่เคย มีพฤติกรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ขณะมึนเมาร้อยละ 36.8 และมีพฤติกรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ ขณะมึนเมาแบบนานๆ ครั้ง ร้อยละ 37.2 โดยมีระดับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นแบบเสี่ยงต่ำ (low risk drinker) ร้อยละ 50.8 2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการดื่มไม่ขับได้แก่ ความรู้ ทัศนคติ การรับรู้อิทธิพลของเพื่อน การรับรู้อิทธิพลของกฎหมาย กฎจราจร และอิทธิพลของสื่อต่างๆ สามารถทำนายพฤติกรรมการ ดื่มไม่ขับของวัยรุ่นได้ 0.39, 193.68, 2.93, 19.28 และ 0.37 เท่าตามลำดับ และปัจจัยทั้ง 4 ตัวร่วมกันทำนายพฤติกรรมการดื่มไม่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้ร้อยละ 93.60 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นว่าควรมีการใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ เพื่อให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมการไม่ขับขี่รถจักรยานยนต์เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผลการศึกษาในครั้งนี้สามารถนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดกิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรมการดื่มไม่ขับของวัยรุ่นชายในตำบลหลักเขต จังหวัดบุรีรัมย์ได้
References
กัลป์ลิกา ฉิมวิรุฬห์ศิริทรัพย์. (2557). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดื่มสุราของผู้ถูกคุมความประพฤติคดีเมาแล้วขับ. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 25( 2), 91-100.
ขวัญจิตร ศรีชาคา,อังสนา บุญธรรม,อุมาวดี เหลาทอง และธราดล เก่งการพานิช. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใ์นระดับชุมชนอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ.วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 9(2), 101-113.
จันทร์ฉาย โยธาใหญ่, สุจิตรา เทียนสวัสดิ์, วารณี ฟองแก้ว, อัจฉรา สุคนธสรรพ์ และสุภารัตน์ วังศรีคูณ.(2559). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดื่มไม่ขับของนักเรียนสังกัดสถาบันอาชีวศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่. พยาบาลสาร, 43(ฉบับพิเศษ), 11-22.
มรกต เขียวอ่อน, โสภิณ แสงอ่อน และพัชรินทร์ นินทจันทร์. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดื่มสุราในนักเรียนจ่าทหารเรือ. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, 30(3), 36-51.
ธัญวรัตน์ แจ่มใส และศรณรงค์ ปล่องทอง. (2561). การศึกษาพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและชุมชน และทัศนคติที่มีต่อวัฒนธรรมการดื่มของกลุ่มชาติพันธุ์ลาว กูยและเขมร : กรณีศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 20(2),145-161.
พระครูรัตนญาณโสภิต (บุญเลิศ รตฺนญาโณ/โสดา) และพระมหามิตร ฐิตปญฺโญ. (2562). ความเชื่อในประเพณีแซนโฎนตาของจังหวัดบุรีรัมย์. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 19(3), 285-294.
เพ็ญจันทร์ เชอร์เรอร์ และพีระพงษ์ วงศ์อุปราช. (2552). มิติทางสังคมของการดื่มสุรากับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว. วารสารสหศาสตร์, 9(2), 194-222.
พัชรพรรณ คูหา. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยจังหวัดเชียงใหม่. [การค้นคว้าแบบอิสระหลักสูตรปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
มูลนิธิเมาไม่ขับ. (2563). สถิติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร ปี 2563. http://www.ddd.or.th
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน. (2562). รายงานประชาชนประจำปี 2562.
http://roadsafety.disaster.go.th/upload/minisite/file_attach/196/5f4ca0c3c24fd.pdf
สุรางค์ศรี ศีตมโนชญ์. (2560).การพัฒนาควา มมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการบริหารจัดการ แก้ไขปัญหาเมาแล้วขับจังหวัดภูเก็ต. ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย (มนป.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2554, 26 สิงหาคม). เจาะลึก‘เมาแล้วขับ’ความเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนน. https://www.thaihealth.or.th/?p=245816
อธิบ ตันอารีย์ และพลเทพ วิจิตคุณากร. (2562). สถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และดัชนีความเสี่ยงต่อปัญหาแอลกอฮอล์ของจังหวัดในประเทศไทย : ข้อมูลการสำรวจ พ.ศ. 2560. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 13(4), 353-367.
อัญชลี เหมชะญาติ และศรีวรรณ ยอดนิล. (2555). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักศึกษาหญิงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี. วารสารการศึกษาและพัฒนาสังคม, 8(1), 115 – 128.
อุษา บิ้กกิ้นส์. (2556). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการเมาแล้วขับและการเปิดรับสื่อของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในเขตกรุงเทพมหานคร. สุทธิปริทัศน์, 27(82), 41-59.
Ajzen, I. (2006). Constructing a theory of planned behavior questionnaire: Conceptual
and methodological consideration.
http://www.people.umass.edu/aizen/pdf/tpb.measurement.pdf
Jiang, H., Livingston, M., & Manton, E. (2015) The effects of random breath testing and lowering the minimum legal drinking age on traffic fatalities in Australian states. Injury Prevention, 21(2), 77-83. doi:10.1136/injuryprev-2014-041303
Stokols, D. (1996). Translating social ecological theory into guidelines for community health promotion. American Journal of Health Promotion,10(4), 282-98.
World Health Organization. (2018). Global status on road safety 2018. World Health Organization.
Zhang, L., Wieczorek, W. F., & Welte, J. W. (2012). The influence of parental and peer drinking behaviors on underage drinking and driving by young men. Journal of Drug Education, 42(3), 347–359.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 ราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ในราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่หรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากราชาวดีสาร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ ก่อนเท่านั้น