สาเหตุของการไม่มาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลและความต้องการในการรับบริการฝากครรภ์

ผู้แต่ง

  • ศีตรา มยูขโชติ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์
  • จุฬารัตน์ ห้าวหาญ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์

คำสำคัญ:

การฝากครรภ์, ความต้องการในการรับบริการฝากครรภ์, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล

บทคัดย่อ

    การศึกษาวิจัยคุณภาพครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสาเหตุของการไม่มาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลและความต้องการในการรับบริการฝากครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่การให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลสมุด อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ทำการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงและทำการสัมภาษณ์เชิงลึกจนข้อมูลอิ่มตัวจำนวน 12 คน แนวคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์เชิงลึกผ่านการตรวจสอบความครอบคลุมของเนื้อหา (Content validity) และภาษาที่ใช้โดยผู้ทรงคุณวุฒิ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพที่ได้จากการสัมภาษณ์เชิงลึกด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)

     ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างเป็นหญิงตั้งครรภ์มีสถานภาพสมรสคู่ อายุระหว่าง 17-38 ปี รายได้ครอบครัวอยู่ระหว่าง 1,500-10,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วางแผนไว้ว่าจะมีบุตรจำนวน 2-4 คน ประวัติการตั้งครรภ์สวนใหญ่เป็นครรภ์ที่ 3 ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชุมชน เนื่องจากเป็นสถานพยาบาลที่ใกล้บ้าน และสิทธิการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้

     สาเหตุของการไม่มาฝากครรภ์ต่อเนื่องที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล คือ สาเหตุจากปัจจัยของหญิงตั้งครรภ์เอง และ สาเหตุจากปัจจัยของสถานบริการสาธารณสุข ในส่วนของสาเหตุจากปัจจัยของหญิงตั้งครรภ์นั้นถึงแม้ว่าผู้ให้ข้อมูลจะระบุว่าเลือกฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชุมชนเนื่องจากเป็นสถานพยาบาลที่ใกล้บ้านแต่ร้อยละ 50 ระบุว่าประสบปัญหาในการไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชุมชนคือปัญหาของการเดินทาง ซึ่งได้แก่ ไม่มีรถส่วนตัว ต้องรอรถโดยสารสาธารณะ และร้อยละ 15 ระบุว่าผู้มารับบริการเยอะ ต้องรอนาน นอกจากนั้นในส่วนของหญิงตั้งครรภ์เองนั้น มีประวัติทางด้านสุขภาพของตนเอง ที่พบทั้งภาวะผิดปกติและภาวะแทรกซ้อนในครรภ์นี้หรือครรภ์ก่อน จึงทำให้ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชุมชน เพราะมั่นใจในคุณภาพการบริการและการให้คำแนะนำ และการได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของรพ.สต.เนื่องจากประวัติการตั้งครรภ์ในครรภ์ก่อนมีภาวะผิดปกติ/ภาวะแทรกซ้อน จึงแนะนำให้ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชุมชน

      ส่วนจากปัจจัยของการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลหรือ รพ.สต.นั้นพบว่ารพ.สต.ไม่มีการบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และจากระบบการดูแลที่ต่อเนื่องที่รพ.สต.ต้องส่งต่อโรงพยาบาลชุมชนในกรณีที่ภาวะผิดปกติหรือภาวะแทรกซ้อนจึงเลือกไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชุมชนเลย รวมทั้งรพ.สต.ไม่มีบริการในระยะการคลอด และเมื่อไปฝากครรภ์แล้วเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลชุมชนนัดต่อเนื่องจึงไปรับบริการที่โรงพยาบาลชุมชนตลอด

     ในส่วนของความต้องการในการรับบริการฝากครรภ์นั้น กลุ่มตัวอย่างต้องการให้ระยะเวลาในการรอรับบริการที่ไม่นาน มีให้บริการหากมีปัญหา-รวมถึงตรวจเลือด-ฟังเสียงหัวใจลูก และได้รับดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์-คลอด-และหลังคลอด ซึ่งความต้องการในการรับบริการฝากครรภ์ ที่กลุ่มตัวอย่างให้ข้อมูลมาส่วนใหญ่คือ ต้องการระยะเวลาในการให้บริการที่เร็วขึ้น รอไม่นาน

References

เดือนเพ็ญ ศิลปอนันต์. (2557). ทำไมจึงมาฝากครรภ์: ทัศนะของหญิงตั้งครรภ์โรงพยาบาลบางกรวย จังหวัดนนทบุรี. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย, 4 (2), 125-134.

ทัศนีย์ หลำเนียม. 2553. การศึกษาความชุกของการไม่มาฝากครรภ์ และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการไม่มาฝากครรภ์ของมารดาที่คลอดบุตรในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต (การผดุงครรภ์ขั้นสูง) บัณฑิตมหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล.

วาสนา ถิ่นขนอน และวิลาวัณย์ ชมนิรัตน์. (2555). การพัฒนาแนวทางการให้บริการหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นโดยครอบครัวมีส่วนร่วมในคลินิกฝากครรภ์ เครือข่ายบริการสุขภาพ อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ, 35 (2), 25-33.

เอื้อมพร ราชภูติ, จันทร์รัตน์ เจริญสันติ, และกรรณิการ์ กันธะรักษา. (2554). การวิเคราะห์สถานการณ์การฝากครรภ์ไม่ครบตามเกณฑ์ของหญิงตั้งครรภ์ โรงพยาบาลระนอง. พยาบาลสาร, 38 (3), 20-29.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2019-08-24