การประเมินหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
คำสำคัญ:
การประเมินหลักสูตร, การพยาบาลเฉพาะทาง, การพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2558-2562) ตามรูปแบบซิปป์ ประกอบด้วย 1)ด้านบริบทของหลักสูตร 2)ด้านปัจจัยนำเข้า 3)ด้านกระบวนการ และ 4)ด้านผลผลิต ตัวอย่างเป็นผู้สำเร็จการอบรมในปี พ.ศ. 2559-2561 (รุ่นที่ 18-20) และผู้บังคับบัญชาของผู้สำเร็จการอบรม จำนวน 201 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น โดยประยุกต์ร่วมกับการประเมินสมรรถนะการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งมีค่าความเที่ยง 0.86 และ 0.83 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติเชิงพรรณา และข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์คำหลักและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า การประเมินหลักสูตรในด้านบริบทของหลักสูตรอยู่ในระดับมากที่สุด ผู้สำเร็จการอบรม มีความเห็นว่า ด้านบริบทของหลักสูตรมีความเหมาะสมระดับมากที่สุด (4.56+0.74) ด้านปัจจัยนำเข้า (4.41+0.66) และด้านกระบวนการ (4.39+0.73) มีความเหมาะสมระดับมาก ด้านผลผลิต ผู้สำเร็จการอบรม ประเมินว่า มีสมรรถนะในการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งทั้ง 8 ด้านอยู่ในระดับสูง และส่วนผู้บังคับบัญชา พบว่า ผู้สำเร็จการอบรมมีสมรรถนะในการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งทั้ง 7 ด้านอยู่ในระดับสูง ยกเว้นด้านการปฏิบัติการพยาบาล เฉพาะทางด้านคลินิกที่เกี่ยวข้องอยู่ในระดับปานกลาง ในส่วนของการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในปฏิบัติการพยาบาล และการบริหารจัดการระบบการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ผู้สำเร็จการอบรมสามารถนำความรู้มาปรับใช้ได้จริงและบูรณาการการดูแลผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัวได้เป็นอย่างดี รวมถึงมีการใช้เครือข่ายในการดูแลผู้ป่วย โดยมีข้อเสนอแนะให้จัดเวทีให้ผู้สำเร็จการอบรมนำความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนทั้งการทำงาน และผลงานวิชาการด้านการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง สามารถขยายองค์ความรู้นำเสนอในระดับประเทศและต่างประเทศ
เอกสารอ้างอิง
Mira VL, Follador NN, Ferrari CRS, Oliveira LFMN, Silva JAM, Santos, PTD. Evaluation of effectiveness of training of nursing professionals: A correlational study. Online Brazilian Journal of Nursing 2012;11:595-606.
ภารกิจด้านการพยาบาล สถาบันมะเร็งแห่งชาติ. หลักสูตรฝึกอบรมการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็ง; 2558.
Stufflebeam DL, Coryn CLS. Evaluation: Theory, models and applications (2nd eds.). San Francisco: Jossey-Bass; 2014.
ริชัย กาญจนวาสี. โมเดล CIPP ที่เปลี่ยนไป: ความหมาย ความสําคัญและพัฒนาการ. สารสมาคมวิจัยสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย 2558;2(1):3-10.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น; 2560.
Thienthong H, Tiansawad S, Wonghongkul T, Tonmukayakul O. Development of an oncology
nursing competency scale for general professional nurses in Thailand. Chiang Mai University Journal of Natural Sciences 2011;10(1):2-14.
สภาการพยาบาล. ประกาศสภาการพยาบาล เรื่อง สมรรถนะหลักของผู้สำเร็จการศึกษาการพยาบาลเฉพาะทางสาขาพยาบาลศาสตร์; 2561.
สภาการพยาบาล. ประกาศสภาการพยาบาล เรื่อง เกณฑ์การจัดทําหลักสูตรฝึกอบรมการพยาบาลเฉพาะทางและการบริหารจัดการหลักสูตร พ.ศ. 2557. https://www.tnmc.or.th/images/userfiles/files/H007.pdf
Best JW. Research in education. New jersey: Prentice-Hall; 1981.
อภิสิทธิ์ คุณวรปัญญา, คำรณ โชธนะโชติ. การประเมินผลหลักสูตรฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับการวิจัยทางสังคมศาสตร์. วารสารการพัฒนางานประจาสู่งานวิจัย 2557;1(1):49-59.
รวมพร มินานนท์ ,จินตนา พรสัมฤทธิ์โชค, จิราพัชร์ ปัญญาดี, อัญพัชญ์ วิวัฒน์กมลชัย, ชญาณิศา เขมทัศน์. ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการเรียนการสอนในกระบวนวิชาหลักการและเทคนิคการพยาบาลภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่. พยาบาลสาร 2556;40(4):126-38.
วราพร บุญมี. สื่อการสอนกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น
;7(9):373-85.
พรรณี กัณหดิลก, ตรีชฎา ปุ่นสำเริง, ชุติมา มาลัย. กลยุทธ์การสอนด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ทางการพยาบาล. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2560;35(4):34-41.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทีตีพิมพ์ในวารสารโรคมะเร็งนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา
