Thai cancer journal https://he01.tci-thaijo.org/index.php/TCJ <p><strong>Thai Cancer Journal</strong><strong>(Print ISSN:0125-2238,Online ISSN:2730-2237) is an open access, peer-reviewed journal with broad scope covering all areas of cancer research, especially novel concepts, new methods, new regimens, new therapeutic agents, and alternative approaches for early detection and intervention of cancer. </strong></p> <p><strong><br>Focus and Scope : To promote and support academic and research publication of Cancer and the other related articles.<br><br></strong></p> en-US <p>บทความทีตีพิมพ์ในวารสารโรคมะเร็งนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา</p> thaicancerj@gmail.com (นายเเพทย์ธนะรัตน์ อิ่มสุวรรณศรี) thaicancerj@gmail.com (รัชนู สุบรรณจุ้ย) Fri, 17 Jan 2025 00:00:00 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 Comparison of Radiotherapy Positioning Deviations in Head and Neck Cancer Patients With and Without the Use of Dental Impression Fixation Devices https://he01.tci-thaijo.org/index.php/TCJ/article/view/276652 <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ในปัจจุบันการใช้อุปกรณ์ยึดตรึงผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอในการฉายรังสีด้วยเทคนิค 3 มิติขั้นสูง (เทคนิคแปรความเข้มเชิงปริมาตร; Volumetric Modulated Arc Therapy: VMAT) นั้นมีความสำคัญมาก เพื่อความถูกต้องและแม่นยำของตำแหน่งฉายรังสีทั้งขณะฉายรังสีและในทุก ๆ วันจนครบแผนการรักษาที่กำหนด ซึ่งการเลือกใช้อุปกรณ์ยึดตรึงเป็นปัจจัยสำคัญในการฉายรังสี โดยมีวัตถุประสงค์ของการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบความคลาดเคลื่อนการจัดท่าผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอจากการใช้อุปกรณ์ยึดตรึง 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 (อุปกรณ์ยึดตรึงชุดพิมพ์ฟันและอุปกรณ์ยึดตรึงมาตรฐาน) และกลุ่มที่ 2 (อุปกรณ์ยึดตรึงมาตรฐาน) ศึกษาในผู้ป่วยฉายรังสีด้วยเทคนิค VMAT โดยตรวจสอบตำแหน่งการฉายรังสีด้วยวิธีเอกซเรย์ภาพนำวิธี 3 มิติ (X-Ray Cone Beam Computed Tomography: CBCT) การศึกษาครั้งนี้มีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอกลุ่มละ 15 ราย โดยทำ CBCT ทั้งหมด 112 และ 119 ภาพ ตามลำดับ เปรียบเทียบกับภาพอ้างอิง (Digital Reconstructed Radiography: DRR) จากแผนการรักษา โดยศึกษาค่าความคลาดเคลื่อนในแนวระนาบ (X, Y และ Z) และแกนหมุน (sagittal coronal และ transverse) และจำนวนครั้งของการจัดท่าผู้ป่วยการฉายรังสีซ้ำ เปรียบเทียบข้อมูลทั้ง 2 กลุ่มอุปกรณ์ ผลการศึกษาพบว่า อัตราการจัดท่าฉายรังสีซ้ำในผู้ป่วยกลุ่มที่ 1 เท่ากับร้อยละ 25.9 และกลุ่มที่ 2 เท่ากับร้อยละ 48.7 ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P&lt;0.001) และอัตราการจัดท่าฉายรังสีซ้ำในแนว sagittal เท่ากับ 5.4 เปอร์เซ็นต์ และ 25.2 เปอร์เซ็นต์ (P&lt;0.001) และอัตราส่วนของการจัดท่าฉายรังสีซ้ำโดยเปรียบเทียบระหว่างสองกลุ่ม (incidence rate ratio of re-positioning) เท่ากับ 0.5 (P=0.023) ดังนั้น การใช้อุปกรณ์ยึดตรึงผู้ป่วยโรคมะเร็งศีรษะและลำคอในการฉายรังสีด้วยเทคนิค VMAT ด้วยอุปกรณ์ยึดตรึงชุดพิมพ์ฟันร่วมกับอุปกรณ์ยึดตรึงมาตรฐาน ช่วยลดการจัดท่าฉายรังสีซ้ำได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยเฉพาะในแนวศีรษะ-เท้าสามารถลดอัตราการจัดท่าฉายรังสีซ้ำได้ถึง 5 เท่า และลดระยะเวลารวมในการฉายรังสีแต่ละวัน ที่สำคัญลดการได้รับปริมาณรังสีโดยไม่จำเป็นของผู้ป่วยในการทำ CBCT ซ้ำ และลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ยึดตรึงของหน่วยงาน (วารสารโรคมะเร็ง 2568;45:1-13)<br>คำสำคัญ: อุปกรณ์ยึดตรึงชุดพิมพ์ฟัน การจัดท่าผู้ป่วยการฉายรังสีซ้ำ</p> Anatta Khrueawongsa, Chanwit Maka, Khanthong Chaimongkol, Jiraporn Mannoi, Rachadaporn Prasertsom Copyright (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://he01.tci-thaijo.org/index.php/TCJ/article/view/276652 Fri, 17 Jan 2025 00:00:00 +0700