การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารเวชภัณฑ์ยากลุ่มมุ่งเป้า (Targeted therapy) กลุ่มงานเภสัชกรรม สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ตุลาคม 2559 ถึง มิถุนายน 2562

บทคัดย่อ

จากการนำข้อมูลจัดซื้อยาในปีงบประมาณ 2560 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ มาวิเคราะห์ด้วยวิธี ABC analysis พบว่ายาในกลุ่ม A ซึ่งเป็นยาที่มีมูลค่าการจัดซื้อสูงที่สุด ได้แก่ ยากลุ่มมุ่งเป้า มีมูลค่าสูงถึง 29.49 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.92 การศึกษานี้จึงทำขึ้นเพื่อเปรียบเทียบมูลค่าคงคลังที่ไม่มีการ เคลื่อนไหวจากการสั่งใช้ยา มูลค่าซื้อยากลุ่มมุ่งเป้า มูลค่าการจ่ายยากลุ่มมุ่งเป้า อัตราการสำรองยากลุ่ม มุ่งเป้าก่อนและหลังการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารเวชภัณฑ์ โดยรวบรวมกลุ่มตัวอย่างที่จะศึกษาเป็นข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างจากเอกสารและในระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล จากปีงบประมาณ 2560 -2562 หลังจากนั้นใช้วิธีทางสถิติ One way ANOVA เพื่อทดสอบหาความสัมพันธ์ของการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารเวชภัณฑ์ พบว่ามูลค่าคงคลังที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของยากลุ่มมุ่งเป้า มูลค่าการซื้อและจ่ายยารวม อัตราคงคลังในปีงบประมาณ 2561-2562 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สรุปได้ว่าการลดลงของตัวชี้วัดการบริหารเวชภัณฑ์ อาจเนื่องมาจาก การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารเวชภัณฑ์ยา กลุ่มมุ่งเป้าและการออกประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่องกำหนดราคากลางยาที่ทำให้ ราคายาที่ซื้อจากบริษัทยาลดลง ทำให้ภาพรวมของมูลค่าการซื้อยาลดลงด้วย การศึกษาในอนาคตควรทำครอบคลุมในยากลุ่มอื่น ๆ ที่มีมูลค่าการจัดซื้อสูง เช่น กลุ่มยาเคมีบำบัดนอกบัญชียาหลักแห่งชาติที่มี ราคาสูง รวมทั้งกลุ่มยาต้านไวรัสตับอักเสบที่เป็นยานอกบัญชียาหลักอีกด้วย