มะเร็งเต้านมระยะก่อนลุกลามตรวจพบโดยคัดกรองแสดงรอยโรคท่อนมหนาในภาพอุลตราซาวด์:รายงานผู้ป่วยโดยเทียบเคียงกับพยาธิวิทยาเนื้อเยื่อ

ผู้แต่ง

  • แองเกรนี อาร์ยู เรงกานิส คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • พิเชฐ สัมปทานุกุล ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
  • ดรุณี บุญยืนเวทวัฒน์ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • วริษา ตันติดลธเนศ ฝ่ายพยาธิวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
  • อธิศพันธุ์ จุลกทัพพะ ฝ่ายศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

คำสำคัญ:

ท่อนมหนา, อุลตราซาวด์เต้านม, มะเร็งเต้านมระยะก่อนลุกลาม, การเจาะดูดด้วยเข็มเล็ก

บทคัดย่อ

มะเร็งเต้านมระยะก่อนลุกลามส่วนใหญ่พบโดยการตรวจทางรังสีวิทยาหรือแมมโมแกรมโดยพบลักษณะของหินปูนขนาดเล็กที่มีรูปลักษณ์คล้ายผง อยู่เป็นสาย และหลากสัณฐาน ซึ่งพบในภาพรังสีเอกซเรย์ ขณะที่การพบในภาพอุลตราซาวด์หรือการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไม่มีการระบุในระบบการรายงานของ BI-RADS ผู้นิพนธ์รายงานผู้ป่วย 1 ราย อายุ 64 ปีที่ได้รับการผ่าตัดเนื่องจากตรวจอุลตราซาวด์พบลักษณะท่อนมหนาแยกเป็นสองกิ่งบริเวณเต้านมซ้าย ร่วมกับการพบเซลล์มะเร็งจากการเจาะดูดออกมาตรวจทางเซลล์วิทยา ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดเต้านมข้างซ้ายออกทั้งหมด ผลทางพยาธิวิทยาให้การวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะไม่ลุกลามชนิดเกรดสูง ตรงกันกับตำแหน่งของท่อนมหนาตัวและแตกกิ่งก้านที่ปรากฏในภาพอุลตราซาวด์ การผ่าตัดและหลังผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี ผู้ป่วยมีความเป็นอยู่ที่ดีและสุขสบายจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ติดตามอาการมาตลอดเป็นระยะมา 4 ปี สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ มะเร็งเต้านมระยะไม่ลุกลามแสดงออกโดยการพบท่อนม หนาในภาพอุลตราซาวด์เป็นลักษณะนำได้ การตรวจเซลล์วิทยาโดยเจาะดูดด้วยเข็มเล็กตรงที่เป็นท่อหนาเมื่อพบเซลล์มะเร็งควรต้องคิดถึงมะเร็งเต้านมในระยะที่ยังไม่ลุกลามด้วย นอกจากนี้ ลักษณะของสิ่งที่เห็นเป็นท่อหนาในภาพอุลตราซาวด์ เมื่อเทียบเคียงกับภาพในการตรวจพยาธิวิทยาเนื้อเยื่อ พบว่าไม่ได้เป็นท่อเดี่ยวที่มีโพรงและผนังของท่อในแนวยาวตลอดลำ แต่เป็นกลุ่มของ โครงสร้างท่อนมที่มีเซลล์มะเร็งดาดวางตัวอยู่ในเนื้อเยื่อไฟบรัสที่เป็นแนวยาวเพราะฉะนั้นการตรวจ อุลตราซาวด์จึงมีความจำเป็นในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะการดูลักษณะท่อนมหนา ซึ่งการตรวจแมมโมแกรมและการตรวจโดยเทคนิคอื่นไม่สามารถแสดงลักษณะนี้ได้

เอกสารอ้างอิง

Schnitt SJ, Collins LC. Intraductal Prolifera-tive Lesions: Usual Ductal Hyperplasia, Atypical Ductal Hyperplasia, and Ductal Carcinoma in Situ. Biopsy interpretation of the breast. Philadelphia: Wolters Kluwer Health/Lippincott Wil-liams & Wilkins; 2013. p. 69-93.

D'Orsi CJ. Imaging for the diagnosis and management of ductal carcinoma in situ. J Natl Cancer Inst Monogr. 2010;41:214-7.

Ferris-James DM, Iuanow E, Mehta TS, Shaheen RM, Slanetz PJ. Imaging Approaches to Diagnosis and Management of Common Ductal Abnormalities. RadioGraphics 2012;32:1009-30.

Watanabe T, Yamaguchi T, Tsunoda H, Kaoku S, Tohno E, Yasuda H, et al. Ultrasound Image Classification of Ductal Carcinoma In Situ (DCIS) of the Breast: Analysis of 705 DCIS Lesions. Ultrasound Med Biol 2017;43:918-25.

Boonjunwetwat D, Chyutipraiwan U, Sam-patanukul P, Chatamra K. Sensitivity of mammography and ultrasonography on detecting abnormal findings of ductal carcinoma in situ. J Med Assoc Thai 2007;90:539-45.

Sampatanukul P, Boonjunwetwat D, Thanakit V, Pak-Art P. Integrated criteria of fine-needle aspiration cytology and radiological imaging for verification of breast cancer in nonpalpable lesions.J Med Assoc Thai 2006;89:236-41.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-08-21

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานผู้ป่วย