การสนับสนุนทางสังคมและการปรับตัวของผู้ป่วยมะเร็ง ที่มารับการรักษาที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ: วิจัยกรณีศึกษา
คำสำคัญ:
การสนับสนุนทางสังคม การปรับตัว ผู้ป่วยโรคมะเร็ง วิจัยกรณีศึกษาบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสนับสนุนทางสังคมและการปรับตัวของผู้ป่วยมะเร็งเป็นการ วิจัย แบบกรณีศึกษา (case study research) ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (in-depth interview) จากผู้ให้ข้อมูลหลักผู้ป่วยมะเร็งจำนวน 5 รายและญาติผู้ดูแลใกล้ชิดของผู้ป่วยมะเร็ง จำนวน 5 ราย เก็บข้อมูลวิจัยในหอผู้ป่วยใน สถาบันมะเร็งแห่งชาติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งได้รับการสนับสนุนทางสังคม 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านอารมณ์ ผู้ป่วยได้รับความรัก ความห่วงใย การดูแลเอาใส่ใจและกำลังใจ 2) ด้านการยอมรับ ผู้ป่วยได้รับการยอมรับยกย่อง เป็นที่เคารพนับถือและเห็นคุณค่าในตัวตน 3) ด้านเครือข่ายทางสังคม ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้เข้าร่วมทำกิจกรรมบำบัดร่วมกับผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับการรักษาในช่วงเวลาเดียวกัน 4) ด้านข้อมูลข่าวสาร ได้รับความรู้จากแพทย์และพยาบาลเกี่ยวกับโรคมะเร็งและวิธีการดูแลตนเองขณะที่เข้ารับการรักษา และ 5) ด้านสิ่งของและบริการ ได้รับความช่วยเหลือในการเดินทางและค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ สำหรับรูปแบบการปรับตัวของผู้ป่วยแบ่งเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) การปรับตัวด้านร่างกาย โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานให้เหมาะสมกับกระบวนการรักษาโรคมะเร็ง 2) การปรับตัวด้านจิตใจ โดยการยอมรับกับความเจ็บป่วยของตนเอง และมีมุมมองต่อโลกในเชิงบวก 3) การปรับตัวด้านบทบาทหน้าที่ โดยการจัดสรรเวลาการทำงานให้เหมาะสมกับร่างกาย และ 4) การปรับตัวด้านพึ่งพาอาศัย โดยการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับเพื่อนผู้ป่วยมะเร็งและญาติพี่น้อง และทีมสหวิชาชีพ ดังนั้น การสนับสนุนทางสังคมจะช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในขณะที่เจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ (วารสารโรคมะเร็ง 2563;40:62-75)
เอกสารอ้างอิง
National Cancer Institute [Internet]. Types of cancer Treatment. Available at https://www. cancer.gov/about-cancer/treatment/types. Accessed August 23, 2019.
ชุมพร รุ่งเรือง. การสนับสนุนทางสังคมของผู้ป่วยเรื้อรังที่เข้ารับการรักษาในแผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลหนองคาย[วิทยานิพนธ์
ปริญญามหาบัณฑิต].กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2542.
เบญจมาศ ตระกูลงามเด่น, สุภวรรณ วงศ์ธีรทรัพย์. ปัจจัยการทำนายคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายในแผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานครและคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช.วารสารเกื้อการุณย์ 2559;23:199-215.
สุรชัย มณีเนตร, ชนกพร จิตปัญญา. ปัจจัยที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดี.วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ 2557;6:24-35.
จุรีรัตน์ กอเจริญยศ, ยุพากร หอมสมบัติ, นัฐิยา เพียรสูงเนิน. ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวของผู้ป่วยโรคเรื้อรังของโรงพยาบาลมหาสารคาม.วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 2554;30:193-208.
จิราพร อุดมกิจพิพัฒน์, นุจเรศ โสภา, รจนา พิษาภาพ.การปรับตัวต่อความเจ็บป่วยของสตรีวัยผู้ใหญ่ตอนต้นโรคมะเร็งปากมดลูก
ระยะแพร่กระจาย.วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ 2560;9:85-95.
ธีระนิตย์ อุ่นหล้า. การศึกษาประวัติชีวิตและการเสริมพลังอำนาจในตนเองของผู้ดูแลเด็กมะเร็งเม็ดเลือดขาว [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2560.
ปิยะนุช แน่งเพ็ชร. พฤติกรรมการปรับตัวของผู้ป่วยแอลดีเอส [วิทยานิพนธ์หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2560.
ชฎาภรณ์ สมทอง. การศึกษาการจัดการกับอาหาร การประเมินอาการและผลลัพธ์จากการจัดการกับอาการข้างเคียงของยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Non-Hodgkin. [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2545.
พัชรินทร์ แก้วรัตน์, วรรณา ฉายอรุณ, วาสินี วิเศษฤทธิ์.ประสบการณ์ชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ขณะรักษาด้วยเคมีบำบัด.วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอิสเทิร์นเอเชีย 2560;11:224-34.
มาลี นิ่มพงษ์พันธุ์. ผลของการพยาบาลตามรูปแบบความเชื่อความเจ็บป่วยต่อคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในผู้ป่วยมะเร็งศีรษะระหว่างการรับรังสีรักษา. [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2551.
ศุภกร หวานกระโทก. แบบแผนอาการเหนื่อยล้าการจัดการและผลลัพธ์ของการจัดการในผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกที่รับรังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัด [วิทยานิพนธ์หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยมหิดล; 2556.
จุฬาวรรณ สุระกุล, อรัญญา เชาวลิต, ช่อลดา พันธุเสนา ,วันดี สุทธรังสี. ประสบการณ์ของผู้ป่วยโรคมะเร็งในการได้รับการบอกความจริงเกี่ยวกับความเจ็บป่วยจากทีมสุขภาพ. สงขลานริทร์เวชสาร 2545;20:242-9.
ตรีทิพย์ เครือหลี, บุษกร พันธ์เมธาฤทธิ์, วันธณี วิรุฬห์พานิช. ประสบการณ์ความทุกข์ทางจิตวิญญาณของวัยรุ่นโรคมะเร็ง. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยการพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้ 2562;6:27-40.
พัชรี นุ่มแสง, สุวคนธ์ กุรัตน์, กัญญาพัชร เข้าทอง, ดรุณี สมบูรณ์กิจ, กมลรัตน์ สุปัญญาบุตร, รัชนี ปะสารีบุตร และคณะ. ประสบการณ์ชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด. วารสารศูนย์การศึกษาแพทย์ศาสตร์คลินิกโรงพยาบาลพระปกเกล้า 2561;35:140-52.
ศุภลักษณ์ ฟื้นทอง. ความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนทางครอบครัวกับความผาสุกของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับยาเคมีบำบัด [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. สมุทรปราการ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ; 2561.
ภัครพร กรดแก้ว. ผลของกลุ่มจิตบำบัดประคับประคองต่อความหวังของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลามที่ได้รับรังสีรักษา [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2560.
อติญา โพธิ์ศรี. การมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการดูแลผู้ป่วยจิตเภทเรื้อรัง: กรณีศึกษาที่ชุมชนบ้านท่าม่วง จังหวัดร้อยเอ็ด. ศรีนครินทร์วารสาร 2562;34:82-9.
Bernard D, Zysnarska M, Adamek R. Soc sup for cancer-selected problems. 2010;15:47-50.
พันตำรวจโทหญิงนวพรรษ สีมารักษ์.ความสัมพันธ์ระหว่างความหวัง การสนับสนุนทางสังคม ความทุกข์ทรมานจากอาการและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ได้รับยาเคมี [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ ; 2557.
พิมพ์ภัทร ตันติทวีวัฒน์. ปัจจัยทำนายการปรับตัวของผู้รอดชีวิตจากโรคเลือดสมอง [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร
มหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2559.
Brandao T, Marc S, Matos P. Psychological adjustment after breast cancer: a systematic review of longitudinal studies [Online forum comment]. 2017. Available at https://repository.brynmawr.edu/cgi/viewcontent.cgi?referer=https://www.google.co.th/&httpsredir=1&article=1014&context=soc_pubs. Accessed August 31, 2019.
ปุณรดา พวงสมัย. ความสัมพันธ์ระหว่างอายุ ระดับการศึกษา ความรู้สึกไม่แน่นอนในความเจ็บป่วย ความเข้มแข็งในการมองโลก แรงสนับสนุนทางสังคมกับการปรับตัวของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด [วิทยานิพนธ์หลักสูตรพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2556
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทีตีพิมพ์ในวารสารโรคมะเร็งนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา
