ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการพัฒนาเพื่อรับรองคุณภาพ โรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล และปัจจัยที่สัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมของบุคลากรในการพัฒนาคุณภาพเพื่อรับรองคุณภาพโรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี กลุ่มตัวอย่างเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานีที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี 1 ปีขึ้นไป จำนวน 80 คนได้จากการสุ่มแบบชั้นภูมิตามสัดส่วนของบุคลากรในกลุ่มงาน 3 กลุ่มของโรงพยาบาล (proportionate stratified random sampling) เก็บข้อมูลในช่วงวันที่ 1 ธันวาคม 2558–29 กุมภาพันธ์ 2559 เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ประเมินความรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล แรงจูงใจต่อการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลและการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล มีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาคเท่ากับ 0.70, 0.85 และ 0.90 ตามลำดับ ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีความรู้ แรงจูงใจ และการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลอยู่ในระดับน้อย คิดเป็นร้อยละ 76.2, 76.2 และ 75.0 ตามลำดับ และบุคลากรที่มีแรงจูงใจภาพรวมระดับมากมีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อรับรองคุณภาพโรงพยาบาลมากกว่าบุคลากรที่มีแรงจูงใจระดับน้อย (P=0.015) และพบว่าบุคลากรที่มีตำแหน่งงานที่ปฏิบัติเป็นผู้บริหารหรือหัวหน้ากลุ่มงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อรับรองคุณภาพโรงพยาบาล มากกว่าบุคลากรที่มีตำแหน่งงานเป็นผู้ปฏิบัติงาน (P=0.002) และบุคลากรที่มีตำแหน่งในงานพัฒนาคุณภาพมีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อรับรองคุณภาพโรงพยาบาลมากกว่าบุคลากรที่ไม่มีตำแหน่งในงานพัฒนาคุณภาพ (P=0.002) ส่วนอายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งที่บรรจุ กลุ่มงาน ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน และการได้รับการอบรมด้านการพัฒนาคุณภาพ และความรู้ไม่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของบุคลากรในโรงพยาบาล ผลการศึกษานี้พบว่าแรงจูงใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพทีมบริหารในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลจึงควรจัดให้มีกิจกรรมเสริมสร้างแรงจูงใจให้แก่บุคลากร เพื่อให้มีส่วนร่วมมากขึ้น