บทบาทพยาบาลในการดูแลต่อปฏิกิริยาตอบสนองจากการรับรู้ข่าวร้ายในผู้ป่วยมะเร็ง
คำสำคัญ:
การบอกความจริง, การแจ้งข่าวร้าย, บทบาทพยาบาล, การดูแลพยาบาล, ผู้ป่วยมะเร็งบทคัดย่อ
โรคมะเร็งเป็นโรคเรื้อรังที่นับวันพบอุบัติการณ์มากขึ้น ผู้ป่วยมักเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม อัตราการรอดชีพของผู้ป่วยลดลงตามการลุกลามของโรค แนวทางการรักษามักไม่ได้หวังผลให้หายขาด แต่เป็นการให้ความช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยในการบรรเทาอาการเจ็บป่วยในทุกมิติ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โรคมะเร็งในความคิดของบุคคลทั่วไปเป็นโรคที่ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานและเสียชีวิตในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้การได้รับทราบข้อมูลการวินิจฉัยโรคของผู้ป่วยและครอบครัว มักเกิดความเครียด วิตกกังวล และการรับทราบนั้นเปรียบเสมือนการได้รับข่าวร้าย ปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้นของผู้ป่วยและครอบครัว มีความซับซ้อนและยุ่งยากในการให้ความช่วยเหลืออีกทั้งเป็นความยากลำบากสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการแจ้งข่าวและการให้ความช่วยเหลือดูแล เนื่องด้วยการให้ความช่วยเหลือเยียวยาต้องอาศัยผู้ที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์มีความชำนาญ ประสบการณ์ค่อนข้างสูง เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีการยอมรับและปรับตัวได้เป็นอย่างดี ในทางตรงกันข้ามหากปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้น ไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างถูกต้องเหมาะสม อาจส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวได้ อย่างไรก็ตามการแจ้งข่าวร้ายเกี่ยวกับภาวะโรค การพยากรณ์โรค และแนวทางการรักษาให้ผู้ป่วยและครอบครัวรับทราบ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลืออย่างถูกต้องเหมาะสมจนสามารถทำให้ผู้ป่วยยอมรับ ปรับตัว ตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลที่ดี จะส่งผลให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือที่ตรงตามความต้องการ และคงไว้ซึ่งความเป็นปกติสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ในทุกมิติ
เอกสารอ้างอิง
สถิติสาธารณสุข 2558 สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. เข้าถึงได้จาก: http://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/files/health_statistic2558.pdf. สบื ค้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560.
นภนิศ รัตนภาสุร. ปัจจัยที่มีผลต่อการล่าช้าในการรักษาของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในศูนย์มะเร็งภาคกลาง. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล, กรุงเทพมหานคร; 2550.
สมิทธิ์ สร้อยมาดี. อัตราการรอดชีพและปัจจัยพยากรณ์โรคขอผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในโรงพยาบาล. วารสารโรคมะเร็ง 2560;37:62-71.
ยุพิน เพียรมงคล, ณัฐวรรณ สุวรรณ. รายงานการวิจัยเรื่องการจัดการกับอาการในผู้ป่วยมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่ได้รับเคมีบำบัด. เชียงใหม่: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2551.
วีรวัฒน์ พันธ์ครุฑ. บ้านปันรัก. วารสารก้าวใหม่ 2558;8: 8-11.
ยุวนิดา อารามรมย์. ประสบการณ์ของครอบครัวผู้ป่วยวิกฤตและใกล้ตาย. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2550.
Kubler - Ross E. On Death and Dying. New York: Scribner; 1969.
สุระพร ปุ้ยเจริญ. ความต้องการการบอกความจริงเกี่ยวกบัความเจ็บป่วยของผู้ป่วยมะเร็งในโรงพยาบาลศูนย์ภาคใต้. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2547.
ลักษณา สุวรรณนิล. ความต้องการของผู้ป่วยและผู้ตัดสินใจแทนเกี่ยวกับการแสดงเจตนาล่วงหน้าในการรักษาพยาบาลระยะสุดท้าย. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2555.
พงศกร เล็งดี, อุฬาร วิเลขา, นิวัตน์ ศรีวิจารย์, สาคร สามดาว, ณัชชา เจริญภัทราวุฒิ. มุมมองของผู้ป่วยโรคมะเร็งต่อการได้รับแจ้งการวินิจฉัยโรค. วารสารโรคมะเร็ง 2552; 29:143-51.
Huang SH, Tang FI, Liu CY, Chen MB, Liang TH, Sheu SJ. Truth-telling to patients' terminal illness: what makes oncology nurses act individually? Eur J Oncol Nurs 2014;18:492-8.
ชิษณุ พันธุ์เจริญ. การสื่อสารทางการแพทย์. ใน: ชิษณุ พันธุ์เจริญ. จรุงจิตร์ งามไพบูลย์. บรรณาธิการ. คู่มือทักษะการสื่อสารด้านบริการทางการแพทย์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ธนาเพรส. 2551:1-9.
กัญญาวีร์ สิริโรจนามณี.การแจ้งข่าวร้ายในการดูแลแบบประคับประคอง การทบทวนหลักฐานเชิงประจักษ์. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2557.
จุฬาวรรณ สุระกุล, อรัญญา เชาวลิต, ช่อลดา พันธุเสนา, วันดี สุทธรังษี. ประสบการณ์ของผู้ป่วยมะเร็งในการได้รับการบอกความจริงเกี่ยวกับความเจ็บป่วยจากทีมสุขภาพ. สงขลานครินทร์เวชสาร 2545;20:241-9.
Breitbart W, Rosenfeld B, Pessin H, Kaim M, Funesti-Esch J, Galietta M, et al. Depression, hopelessness, and desire for hastened death in terminally ill patients with cancer. JAMA 2000; 284:2907-11.
Kleespies PM, Hughes DH, Gallacher FP. Suicide in the medically and terminally ill: Psychological and ethical considerations. J Clin Psychol 2000;56:1153-71.
Weisman, AD. Coping with cancer. New York: McGraw-Hill; 1979.
ศิริพร ตาละชพี . สถาบนั มะเร็งแห่งชาติ: หน่วยการพยาบาลให้คำปรึกษา. วชิระภูเก็ต.
พีรเทพ รุ่งคุณากร. ชีวิตนี้มีความหมาย. วารสารครุศาสตร์ 254;3:61-7.
ณฤดี กิจทวี. ประสบการณ์ด้านจิตใจของผู้ป่ วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม.วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร; 2552.
สมพร ปานผดุง. ผลของโปรแกรมการพยาบาลประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมต่อความผาสุกทางจิตวิญญาณของญาติผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งทางนรีเวชระยะลุกลามในโรงพยาบาล. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2556.
ดุจเดือน เขียวเหลือง. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบการสะท้อนคิดเพื่อสร้างเสริมความสามารถในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมทางการพยาบาลสำหรับนักศึกษาพยาบาล. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฏีบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก; 2556.
พรศรี แสนปัญญา. ความวิตกกังวลต่อความตาย การมองโลกในแง่ดี ความผาสุกทางจิตวิญญาณ และการปรับตัวต่อความตายของผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังในคลินิกผู้สูงอายุ. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพมหานคร; 2553.
วรลักษณ์ เจริญศรี. กระบวนการตัดสินใจของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายและญาติในการเข้ารับการการรักษาที่สถานบำบัดอโรคยศาล วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ กรุงเทพมหานคร; 2556.
วรรษมน บูรณรัช. มุมมองเกี่ยวกับภาวะใกล้ตายและความตายของผู้ป่วยโรคร้ายแรงภายใต้การดูแลรักษาแบบประคับประคอง. วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคมวิทยามหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร; 2556.
อานนท์ วิทยานนท์, จารุรินทร์ ปิตานุพงศ์. กระบวนการของการสื่อสาร. สงขลานครินทร์เวชสาร 2554;29:195-201.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทีตีพิมพ์ในวารสารโรคมะเร็งนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา
