การเลื่อนการให้ยาหรือลดขนาดยาเคมีบำบัดสูตรแพลตินัมเป็นหลักส่งผลต่อการรักษาในผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุผิวระยะลุกลาม
คำสำคัญ:
มะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุผิว ยาเคมีบำบัด แพลตินัมบทคัดย่อ
ยาเคมีบำบัดสูตรที่มีแพลตินัมเป็นหลัก เป็นมาตรฐานสำหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุทั้งในระยะเริ่มต้นและเมื่อโรคเกิดการกลับเป็นซ้ำหรือมีการลุกลาม แม้ว่ายาสูตรนี้จะเป็นตัวเลือกแรกเนื่องจากมีประสิทธิภาพดี แต่อาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นจากยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะกดไขกระดูก ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับยาได้ตามแผนการรักษาหรือต้องเลื่อนการให้ยาออกไป ซึ่งอาจมีผลต่อประสิทธิภาพในการรักษา งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเลื่อนการให้ยาหรือลดขนาดยาเคมีบำบัดที่มีต่อการรักษาผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุผิวระยะลุกลามที่มารับยาเคมีบำบัดสูตรที่มีแพลตินัมเป็นหลัก โดยเก็บข้อมูลระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง กันยายน พ.ศ.2561 ณ ศูนย์ให้ยาเคมีบำบัดแบบผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยที่เข้าร่วมการวิจัยทั้งหมด 52 ราย อายุตั้งแต่ 35 ถึง 85 ปี (เฉลี่ย 55.7 ± 10.5 ปี) ได้รับยาเคมีบำบัด 310 รอบ ผู้ป่วย 31 ราย (ร้อยละ 59.6) ต้องเลื่อนการให้ยาเคมีบำบัด 51 ครั้ง (ร้อยละ 16.4) สาเหตุของการเลื่อนการให้ยาเคมีบำบัดที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากภาวะเม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิลต่ำ พบใน ผู้ป่วย 28 ราย (ร้อยละ 90.4) และพบการลดขนาดยาในผู้ป่วย 11 ราย (ร้อยละ 21.1) สาเหตุที่ทำให้ต้องลดขนาดยา มากที่สุดคือภาวะเม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิลต่ำโดยพบร้อยละ 72.7 จากการวิเคราะห์พบว่าผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 60 ปี มีแนวโน้มที่ต้องเลื่อนการให้ยาเคมีบำบัดมากกว่า (ร้อยละ 69.7 vs 42.1, P = 0.078) แต่ไม่มีปัจจัยใดสัมพันธ์กับการลดขนาดยา การศึกษานี้พบว่าการเลื่อนหรือลดขนาดยาเคมีบำบัดไม่มีผลต่ออัตราการตอบสนองต่อการรักษาในระยะสั้น มีเพียงสถานะหลังการผ่าตัด (debulking status) เท่านั้นที่มีผลต่อการตอบสนองต่อการรักษา โดยพบว่า กลุ่มที่สามารถผ่าตัดก้อนมะเร็งออกได้หมดหรือผ่าตัดได้อย่างเหมาะสม (complete or optimal) เท่านั้นที่มีการ ตอบสนองที่ดีต่อการรักษา เทียบกับกลุ่มที่มีผลการผ่าตัดไม่ดีหรือไม่ได้รับการผ่าตัด (ร้อยละ 100 vs 77.8 และ 50.0 ตามลำดับ, P = 0.003) ผลจากการศึกษานี้สรุปได้ว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุผิวระยะลุกลามที่ได้รับยา เคมีบำบัดสูตรที่มีแพลตินัมเป็นหลักต้องเลื่อนการให้ยา สาเหตุหลักคือภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิลต่ำ อย่างไรก็ตาม การเลื่อนการให้หรือลดขนาดยาไม่มีผลต่อการตอบสนองต่อการรักษาในระยะสั้น ควรติดตามระยะเวลาการรอดชีพของผู้ป่วยต่อไปเพื่อประเมินว่าการลดขนาดยาหรือเลื่อนการให้ยาเคมีบำบัดออกไปมีผลกระทบในระยะยาวหรือไม่
เอกสารอ้างอิง
Coburn SB, Bray F, Sherman ME, Trabert B. International
patterns and trends in ovarian cancer incidence,
overall and by histologic subtype. Int J Cancer
;140:2451-60.
Bray F, Ferlay J, Soerjomataram I, Siegel RL, Torre LA,
Jemal A. Global cancer statistics 2018: GLOBOCAN
estimates of incidence and mortality worldwide for
cancers in 185 countries. CA Cancer J Clin
;68:394-424.
Ledermann JA, Raja FA, Fotopoulou C, Gonzalez-
Martin A, Colombo N, Sessa C, et al. Newly diagnosed
and relapsed epithelial ovarian carcinoma: ESMO
Clinical Practice Guidelines for diagnosis, treatment
and follow-up. Ann Oncol 2013;24 suppl 6:vi24-32.
Shimokawa M, Kogawa T, Shimada T, Saito T, Kumagai H,
Ohki M, Kaku T. Overall survival and post-progression
survival are potent endpoint in phase III trials of
second/third-line chemotherapy for advanced or
recurrent epithelial ovarian cancer. J Cancer
;9:872-9.
Chirivella I, Bermejo B, Insa A, Perez-Fidalgo A,
Magro A, Rosello S, et al. Impact of chemotherapy
dose-related factors on survival in breast cancer
patients treated with adjuvant anthracycline-based
chemotherapy. J Clin Oncol 2006;24(18_suppl):668.
Crawford J, Denduluri N, Patt D, Jiao X, Morrow PK,
Garcia J, et al. Relative dose intensity of first-line
chemotherapy and overall survival in patients with
advanced non-small-cell lung cancer. Supportive
Care Cancer 2020;28:925-32.
Aspinall SL, Good CB, Zhao X, Cunningham FE,
Heron BB, Geraci M, et al. Adjuvant chemotherapy
for stage III colon cancer: relative dose intensity and
survival among veterans. BMC Cancer 2015;15:62.
Bandera EV, Lee VS, Rodriguez-Rodriguez L, Powell
CB, Kushi LH. Impact of Chemotherapy Dosing on
Ovarian Cancer Survival According to Body Mass
Index. JAMA Oncol 2015;1:737-45.
Joseph N, Clark RM, Dizon DS, Lee MS, Goodman
A, Boruta D Jr, et al. Delay in chemotherapy
administration impacts survival in elderly patients
with epithelial ovarian cancer. Gynecol Oncol
;137:401-5.
ชวัญญา ระบิลทศพร. ผลของการรักษาแพทย์ทางเลือกที่
มีต่อการเลื่อนและ/หรือการลดขนาดยาเคมีบำบัดในผู้
ป่วยโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอดและมะเร็งลำไส้ใหญ่
ของรพ.จฬุ าลงกรณ์ (วิทยานิพนธ์ปริญญาโท). จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย; 2557.
อภิชญา ลือพืช, ขวัญจิต ด่านวิไล. อุบัติการณ์และปัจจัย
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเม็ดเลือดขาวนิวโทรฟิลต่ำในผู้ป่วย
มะเร็งเต้านมที่รับยาเคมีบำบัดทางหลอดเลือดดำ ณ
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์. วารสารเภสัชกรรมไทย
;9:180-91.
นัตยา บัวทุม, สุทธิดา อินทรบุหรั่น. ความชุกของภาวะเม็ด
เลือดขาวนิวโทรฟิลต่ำหลังให้ยาเคมีบำบัด แพ็คลิแท็กเซล
ร่วมกับคาร์โบพลาตินในผู้ป่ วยมะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุผิว
ในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า. เวชสารแพทย์ทหารบก
;68:11-6.
Vasey PA, Jayson GC, Gordon A, Gabra H, Coleman
R, Atkinson R, et al. Phase III randomized trial of
docetaxel–carboplatin versus paclitaxel–carboplatin
as first-line chemotherapy for ovarian carcinoma.
J Natl Cancer Inst 2004;96:1682-91.
du Bois A, Lück HJ, Meier W, Adams HP, Möbus V,
Costa S, et al. A randomized clinical trial of cisplatin/
paclitaxel versus carboplatin/paclitaxel as first-line
treatment of ovarian cancer. J Natl Cancer Inst
;95:1320-9.
Chang SJ, Hodeib M, Chang J, Bristow RE. Survival
impact of complete cytoreduction to no gross residual
disease for advanced-stage ovarian cancer: a metaanalysis.
Gynecol Oncol 2013;130:493-8.
Hanna RK, Poniewierski MS, Laskey RA, Lopez MA,
Shafer A, Van Le L, et al. Predictors of reduced
relative dose intensity and its relationship to mortality
in women receiving multi-agent chemotherapy for
epithelial ovarian cancer. Gynecol Oncol 2013;129:
-80.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทีตีพิมพ์ในวารสารโรคมะเร็งนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา
