ประสิทธิผลของโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้ต่อความสามารถในการดูแลตัวเอง การรับรู้ความรุนแรงของอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัด และความวิตกกังวลในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแรกที่เข้ารับการรักษาเสริมด้วยเคมีบำบัด
คำสำคัญ:
มะเร็งเต้านมระยะแรก, ความสามารถในการดูแลตนเอง, ความรุนแรงของอาการข้างเคียงจากเคมีบำบัด, ความวิตกกังวล, โปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้บทคัดย่อ
การวิจัยแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนหลัง (one group pre-post test design) นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้ ต่อความสามารถในการดูแลตนเอง การรับรู้ความรุนแรงของอาการและความวิตกกังวลในผู้เป็นมะเร็งเต้านมระยะแรกที่ได้รับการรักษาเสริมด้วยเคมีบำบัด กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเลือกแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 30 ราย ได้รับโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น โดยใช้ทฤษฎีการพยาบาลของโอเร็มเป็นกรอบแนวคิด กลุ่มตัวอย่างเข้าร่วมโปรแกรมเป็นระยะเวลา 9 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบประเมินความสามารถในการดูแลตนเอง แบบบันทึกการรับรู้ความรุนแรงของอาการข้างเคียงที่ประเมินโดยใช้ Edmonton Symptom Assessment Scale และภาวะเยื่อบุช่องปากอักเสบที่ประเมินโดยใช้เกณฑ์ของ WHO ผลการศึกษาพบว่าความสามารถในการดูแลตนเองเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมสูงกว่าก่อนและระหว่างเข้าโปรแกรม (P=0.000) การรับรู้อาการข้างเคียงคือ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร และเหนื่อยล้า เมื่อสิ้นสุดโปรแกรมต่ำกว่าระหว่างเข้าโปรแกรม (P=0.000) และความวิตกกังวลหลังเข้าโปรแกรมต่ำกว่าก่อนเข้าโปรแกรม (P=0.000) การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้เพิ่มความสามารถในการดูแลตนเอง ลดอาการข้างเคียง และความวิตกกังวลในผู้เป็นมะเร็งเต้านมระยะแรกที่ได้รับเคมีบำบัด
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization 2012. Breast cancer. Available at: http://www.who.int/cancer/prevention/diagnosis-screening/breast-cancer/en. Accessed January 10, 2018.
กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (2557). จำนวนผู้ป่ วยมะเร็ง รายใหม่ 15 อันดับแรก จำแนกตามเพศ พ.ศ. 2557. ในอาคม ชัยวีระวัฒนะ และศุลีพร แสงกระจ่าง ทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล กรุงเทพฯ: บริษัท พรทรัพย์การพิมพ์ จำกัด; 2557. หน้า 2-3.
Lotfi-Jam K, Carey M, Jefford M, Schofield P, Charleson C, Aranda S. Nonpharmacologic strategies for managing common chemotherapy adverse effects: a systematic review. J Clin Oncol 2008; 26:5618-29.
Dawn LH. Working hand in glove to prevent chemotherapy-induced peripheral neuropathy. J Natl Cancer Inst 2018;110:125-6.
de Jong N, Courtens AM, Abu-Saad HH, Schouten HC. Fatigue in patients with breast cancer receiving adjuvant chemotherapy: a review of the literature. Cancer Nurs 2002;25:283-97.
Carney T, Tait D, Wakefield A, Ingvarson M, Touyz S. Coercion in the treatment of anorexia nervosa: clinical, ethical and legal implications. Med Law 2005;24:21-40.
Kamen C, Tejani MA, Chandwani K, Janelsins M, Peoples AR, Roscoe JA, et al. Anticipatory nausea and vomiting due to chemotherapy. Eur J Pharmacol 2014;722:172-9.
Peterson DE, Bensadoun RJ, Roila F. Management of oral and gastrointestinal mucositis: ESMO Clinical Practice Guidelines. Ann Oncol 2011;22:78-84.
อภิญญา ปริสุทธิกุล, มลิวรรณ สุคันธพันธ์, ทิพย์วรรณ อรัญดร, อนงนาฏ เรืองดำ, อรุณี เดชาพันธ์กุ ุล, ภัทรพิมพ์ สรรพวีรวงศ์. ประสิทธิผลของโปรแกรมการให้ความรู้แก่ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัดต่อการเพิ่มพูนความรู้และลดความวิตกกังวลให้แก่ผู้ป่วย. วารสารโรคมะเร็ง. 2554;31:125-36.
Compas Be, Luecken L. Psychological adjustment to breast cancer. Curr Dir Psychol Sci 2002;11:111-4.
Kaori SN, Katsuya M, Sachiko NI, Tetsuo A, Norio M. Evaluation of anxiety and salivary chromogranin a secretion in women receiving breast conserving surgery followed by radiation therapy. J Radiat Res 2011;52:351-9.
Melanie CS, Linda DC. Emotional suppression tendencies as predictors of symptoms, mood, and coping appraisals during AC chemotherapy for breast cancer treatment. Ann Behav Med 2010; 40:15-29.
Malone PE. Implementation of a prechemotherapy educational intervention. Clin J Oncol Nurs 2007; 11:707-10.
So WK, Marsh G, Ling WM, Leung FY, Lo JC, Yeung M, et al. Anxiety, depression and quality of life among Chinese breast cancer patients during adjuvant therapy. Eur J Oncol Nurs 2010;14:17-22.
รัชนีกร ใจคำสืบ. ผลของโปรแกรมการพยาบาลแบบสนับสนุนและให้ความรู้ร่วมกับการเดินออกกำลังกายต่ออาการเหนื่อยล้า การนอนไม่หลับและความวิตกกังวลของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด. วารสารโรคมะเร็ง 2552;29:152-61.
Orem, DE. Nursing Concepts of Practice (6th ed.). St. Luois:LuNeois Mosby, 2001.
Chinda M, Jaturapatporn D, Krshen AJ, Udomsubpayakul U. Reliability and validity of a Thai version of the edmonton symptom assessment scale (ESAS-Thai). J Pain Symptom Manage 2011;42: 954-60.
Bruera E, Kuehn N, Miller JM, Selmser P, Macmillan K. The Edmonton Symptom Assessment System (ESAS): a simple method for the assessment of palliative care patients. J Palliat Care 1991;7:6-9.
ทานตะวัน เนตรทอง, สมจิต หนุเจริญกุล, วรชัย รัตนธราธร. ผลของการอมน้ำแข็งต่อการป้องกันและบรรเทาอาการเยื่อบุช่องปากอักเสบในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้เคมีบำบัด. Rama Nurse J 2543:183-92.
Bloom Benjamin S. Hand book on formative and summative evaluation of student learning. New York :McGraw Hill, 1971.
อุบล จ๋วงพานิช, ณัฏฐ์ชญา ไชยวงษ์, จุรีพร อุ่นบุญเรือน. ผลของการใช้โปรแกรมวางแผนการจำหน่ายต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับยาเคมีบำบัด. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 2550:32-42.
Amina MR, El N, Maha El-Z, Hanan El-S, Mohame El- S, Om MS. Utilization of a self-Care Education Program for Alleviating Chemotherapy Induced Physical Side Effects. JCTR 2015;3:8-16.
Garcia S. The effects of education on anxiety levels in patients receiving chemotherapy for the first time: an integrative review. Clin J Oncol Nurs 2014;18: 516-21.
อัมไพวรรณ พวงคำหยาด, รัชนี นามจันทรา, วารินทร์ บินโฮเซ็น. ผลของโปรแกรมการดูแลช่องปากต่อความสามารถในการดูแลช่องปากและภาวะเยื่อบุช่องปากอักเสบในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย 2560:1-17.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทีตีพิมพ์ในวารสารโรคมะเร็งนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา
