อุบัติการณ์และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะภูมิไวเกินจากการใช้ยา paclitaxel ในผู้ป่วยมะเร็ง
คำสำคัญ:
pacilitaxel, ภาวะภูมิไวเกิน, การแพ้ยา, ยาเคมีบําบัดบทคัดย่อ
ภาวะภูมิไวเกินยังคงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังในระหว่างการใช้ยาเคมีบําบัด เพราะสามารถนําไปสู่การต้องพักหยุดให้ยาชั่วคราว หรืองดให้ยาเคมีบําบัด การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอุบัติการณ์และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับ การเกิดภาวะภูมิไวเกินจากการใช้ยา paclitaxel ในผู้ป่วยมะเร็งที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ โดยการเก็บข้อมูลย้อนหลังใน ผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในที่มารับการรักษาด้วยยา paclitaxel เป็นครั้งแรกระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2559 กลุ่มตัวอย่างจํานวน 200 รายเป็นเพศหญิง 198 ราย และเพศชาย 2 ราย ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับ ยาpaclitaxel เกิดภาวะภูมิไวเกิน จํานวน 35 ราย คิดเป็นร้อยละ 20.20 ส่วนใหญ่พบระดับความรุนแรงที่ grade 1-2 อาการที่พบได้แก่ อาการร้อนวูบวาบ (ร้อยละ 68.57) แน่นหน้าอก (ร้อยละ 65.71) ความดันโลหิตสูง (ร้อยละ 37.14) ปวดหลัง ปวดกระดูก (ร้อยละ 20.00) และผื่นคัน (ร้อยละ 2.86) การเกิดภาวะภูมิไวเกินจากยา pacilitaxel มักพบใน กลุ่มผู้ป่วยที่ใช้ยาตั้งแต่ครั้งแรก และสามารถเกิดซ้ําได้ทุกรอบของการให้ยา นอกจากนี้พบว่าปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ กับการเกิดภาวะภูมิไวเกินจากยา pacilitaxel ได้แก่ อายุของผู้ป่วยและรอบที่ให้ยาโดยพบว่า ผู้ป่วยอายุมากขึ้นพบ ภาวะภูมิไวเกินเพิ่มขึ้น (P=0.049) และผู้ป่วยที่ให้ยารอบแรก ๆ เกิดภาวะภูมีไวเกินได้มากกว่ากลุ่มที่ให้ยาในร (P<0.01) จากผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าพบอุบัติการณ์การเกิดภาวะภูมิไวจากยา paclitaxel ในผู้ป่วยมะเร็งได้ ดังนั้นควรให้คําแนะนําและความรู้ด้านยากับผู้ป่วย เฝ้าระวังในระหว่างบริหารยาให้กับผู้ป่วย และกําหนดแนวทางการ ป้องกันและการรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาต่อไป
เอกสารอ้างอิง
แนวทางปฏิบตัใินการป้องกนัการเกิดภาวะ Hypersensitivity reaction. เข้าถึงได้จาก: http://110.164.68.234/news_raja/uploaded/Hypersensitivity%20reaction.pdf. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560.
Hypersensitivities. Italy: Universitadeglistudi di pavia; 2009. Available from: http://nfs.unipv.it/nfs/minf/dispense/immunology/lectures/files/hypersensitivities.html. Accessed April 2, 2017.
Kingsley CD. Hypersensitivity Reaction. In: Perry Mc, ed. The Chemotherapy Source Book. 4th ed. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2008:152-73.
ทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล Hospital-Based Cancer Registry. Thailand: National Cancer Institute; 2017. Available from: http://www.nci.go.th/th/File.download/NCi%20regristry/HOSPITAL-BASED%20 2016%Revise%204%20final.pdf. Accessed February 28, 2018.
Breast Cancer: NCCN Guideline (National Comprehensive Cancer Network; Clinical Practice Guideline in Oncology) version 1.2018 Chemotherapy for Advance or metastatic disease.
สุภัสร์ สุบงกช, จักรพันธ์ อยู่ดี, พิชญ์จิรา สงวนบุญญพงษ์. Drug Monograph. ใน: สุภัสร์ สุบงกช และคณะ, บรรณาธิการ. ค่มูือมาตรฐานการทำงานเกี่ยวกับยาเคมีบำบัดและการดูแลผู้ป่วยหลังได้รับยา. กรุงเทพฯ: นิวธรรมดาการพิมพ์; 2560. หน้า 278-80.
Bragalone DL. Drug information handbook for oncology. 9th edition. Ohio: 2011.
Boulanger J, Borusiquot JN, cournoyer G, Lemieux J, Masse MS, Almanric K, et al. Management of hypersensitivity to platinum-and taxane-based chemotherapy: CEPO review and clinical recommendations. Curr Oncol 2014;21:e630-e641.
Sendo T, Sakai N, Itoh Y, Ikesue H, Kobayashi H, Hirakawa T, et al. Incidence and risk factor for paclitaxel hypersensitivity during ovarian cancer chemotherapy. Cancer Chemother Pharmacol 2005;56:91-6.
Vogel WH. Infusion reactions: diagnosis, assessment, and management. Clin J Oncol Nurs 2010;14: E10-21.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทีตีพิมพ์ในวารสารโรคมะเร็งนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา
