The Effectiveness of Oral Hygiene Promotion Program by Applying Self-Regulation Theory to Prevent Dental Caries for Prathomsuksa 6 students in Phra Pradaeng District, Samut Prakan Province: A Quasi-Experimental Study
Main Article Content
Abstract
This quasi-experimental research using a two-group pretest-posttest design, to compare results of the effectiveness of oral hygiene promotion program by applying self-regulation theory to prevent dental caries for Prathomsuksa 6 students in Phra Pradaeng district, Samut Prakan province. The sample group consisted of Prathomsuksa 6 students, and were randomly assigned to a group of 24 people who received a health education program based on self-regulation theory to prevent dental caries. In the comparison group, 24 people did not receive any programs. Over the course of four weeks. the experiment was conducted. Using questionnaires, data were collected twice before and after the experiment on demographic characteristics, knowledge of oral health promotion, and practices in oral health promotion. The data were analyzed using Descriptive statistics were used to analyze the data, including frequency, percentage, mean, standard deviation, maximum, and minimum values. The mean scores of the results were compared using Paired Samples t-test and Compare the average score between groups with statistics Independent t-test.
The study results found that after the experiment, the experimental group had statistically significant (p-value) higher mean scores in knowledge and practice of oral health promotion than before the experiment. Furthermore, after the experiment, the experimental group's mean scores in knowledge and practice of oral health promotion were statistically significant (p-value) higher than those of the control group. Therefore, this oral health promotion program, applying self-regulation theory for dental caries prevention, improves students' knowledge and practices for preventing dental caries and can be used to organize activities for students in other areas.
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Journal of Safety and Health is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) licence, unless otherwise stated.
References
กนกวรรณ กลิ่นเพย, วัลลีรัตน์ พบคีรี, ยุวนุช สัตยสมบูรณ์, และ ปิยะธิดา ขจรชัยกุล. (2565). การพานักเรียนประถมศึกษาเข้ารับบริการทันตกรรมโดยผู้ปกครอง. วารสารทันตาภิบาล, 33(1), 129-142.
กิตติยา ศรีมาฤทธิ์, อลิษา มูลวงษ์, ธิดารัตน์ กาลาด, เพ็ญศรี นาโสก, แก้วใจ มาลีลัย, และ ภศิน ไชยช่วย. (2564). ประสิทธิผลของโปรแกรมทันตสุขศึกษาต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคฟันผุของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ตำบลเมืองศรีไค อำเภอวารินชำราญ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา, 1(1), 1-16.
ณรงค์ศักดิ์ บุญเฉลียว. (2559). ผลของโปรแกรมทันตสุขศึกษาต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า, 27(1), 17-27.
ณัฐวัฒน์ สุวคนธ์ และ ปราโมทย์ วงศ์สวัสดิ์. (2561). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพฟันเพื่อป้องกันโรคฟันผุของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 12(2), 273–286.
ณัฐวุธ แก้วสุทธา, อังศินันท์ อินทรกำแหง, และ พัชรี ดวงจันทร์. (2556). ปัจจัยเชิงสาเหตุของพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของวัยรุ่นตอนต้น. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 19(2), 153-164.
นงเยาว์ เจื้อยแจ้ว, ภรภัทร ดอกไม้, ธีรยา วรปาณิ, และ ปรายดาว เทพลำลึก. (2567). ผลของการใช้รูปแบบการดูแลสุขภาพช่องปากของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่ชุมชน, 2(2), 17-31.
นภา สุวรรณนพรัตน์. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคฟันผุในเด็ก 0-5 ปีในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เขตอำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 28(ฉบับเพิ่มเติม 1), 23-33.
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2553). สถิติวิเคราะห์เพื่อการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 5). เรือนแก้วการพิมพ์.
เบญจวรรณ ช่วยแก้ว, จันทร์เพ็ญ เลิศวนวัฒนา, และ วรารัตน์ ทิพย์รัตน์. (2563). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพช่องปากต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคฟันผุของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในจังหวัดตรัง. วารสารคณะพยาบาล มหาวิทยาลัยบูรพา, 28(2), 64-73.
พรพิมล ชื่นตา และ นิยม จันทร์นวล. (20-21 กรกฎาคม 2566). ผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปากและพฤติกรรมป้องกันโรคฟันผุของนักเรียน: กรณีศึกษานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนบ้านหนองยางห้วยสะแบก จังหวัดยโสธร [Paper presentation]. การประชุมวิชาการระดับชาติ มอบ.วิจัย ครั้งที่ 17 การวิจัยและนวัตกรรมภายใต้การเปลี่ยนแปลงของโลก Research and Innovation in a Changing World. สำนักงานส่งเสริมบริหารงานวิจัย บริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
พันธนา แสงจันทร์, จารุวรรณ วิโรจน์, และ เขมิกา สมบัติโยธา. (2568). ผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพช่องปากสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารการแพทย์ โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์, 40(2), 395-407.
มารุต ภู่พะเนียด, จันทภา จวนกระจ่าง, ธีรนุช การป๊อก, และ สิรามล นิลกำเนิด. (9-10 กรกฎาคม 2563). ประสิทธิผลของหมากฝรั่งผสมสารเคซีนฟอสโฟเปปไทด์อะมอร์ฟิสแคลเชียมฟอสเฟตต่อการป้องกันฟันฟันผุในเด็กวัยเรียน [Paper presentation]. การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 12 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม “ศาสตร์พระราชา และการวิจัยเพื่อสร้างดุลยภาพชีวิตในยุค Disruptive Technology”. สถาบันวิจัยและพัฒนา: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
รัตนากร ทรัพย์มีชัย, สสวา สุขสุเมฆ, สมัชญา กองสุจิตร์, นริศรา สีสุทธินา, และ ศศิธร ตันติเอกรัตน์. (2567). ประสิทธิผลของโปรแกรมการดูแลสุขภาพช่องปากต่อความรู้ พฤติกรรมการป้องกันโรคฟันผุ และทักษะการแปรงฟันของนักเรียนชั้นประถมศึกษา จังหวัดอ่างทอง. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 7(3), 29-40.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรงกลาง. (2567). รายงานสภาวะทันตสุขภาพนักเรียนชั้นประถมศึกษา. สมุทรปราการ: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสำโรงกลาง.
วรรณี แกมเกตุ. (2555). วิธีวิทยาการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรรษชล ลุนาวัน. (2562). ผลของโปรแกรมการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการกำกับตนเองในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดูแลรักษาฟันของผู้สูงอายุในเขตตำบลวังยาง อำเภอวังยาว จังหวัดนครพนม [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม]. DSpace at Mahasarakham University. http://202.28.34.124/dspace/bitstream/123456789/687/1/60051480003.pdf
วัลยา ธรรมพนิชวัฒน์. (2553). ทฤษฎีการควบคุมตนเอง : แนวคิดและการประยุกต์ใช้ในการพยาบาลเด็ก และครอบครัว. วารสารสภาการพยาบาล, 25(4), 23-33.
ศิริเพ็ญ อรุณประพันธ์, ปิยะดา ประเสริฐสม, ดาวเรือง แก้วขันตี, วราภรณ์ จิระพงษา, และ ขนิษฐ์ รัตนรังสิมา. (2550). สถานการณ์งานส่งเสริมสุขภาพในเด็กนักเรียนประถมศึกษา. วิทยาสารทันตสาธารณสุข, 12(1), 50-60.
โศภิดา บุญมี. (2565). การจัดกิจกรรมทันตสุขศึกษาโดยประยุกต์ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถของตนเองร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคมที่มีต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา]. DSpace at Burapha University. https://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/62920269.pdf
สริญญา รอดพิพัฒน์. (2561). การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับนักเรียนประถมศึกษา: ประยุกต์ใช้กล้องสมาร์ตโฟนเอ็นโดไมโครสโคป [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]. Chula Digital Collections. https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/3574/
สำนักทันตสาธารณสุข, กรมอนามัย. (2561ก). แนวทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา. https://dental.anamai.moph.go.th/th/guidelines
สำนักทันตสาธารณสุข, กรมอนามัย. (2561ข). รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ. 2560 (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: สามเจริญพาณิชย์ (กรุงเทพ) จำกัด.
สำนักทันตสาธารณสุข, กรมอนามัย. (2566). แนวทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา. https://dental.anamai.moph.go.th/th/guidelines
สำนักทันตสาธารณสุข, กรมอนามัย. (2567). แนวทางการดำเนินงานทันตสาธารณสุข ประจำปี พ.ศ. 2568. https://dental.anamai.moph.go.th/th/guidelines/download?id=128405&mid=38582&mkey=m_document&lang=th&did=33364
อัสมาพร สุรินทร์, บุบผา รักษานาม, นงนารถ สุขลิ้ม, และ ธนรต ตั้งค่า. (2562). ผลของโปรแกรมทันตสุขศึกษาสำหรับผู้ปกครองในการป้องกันฟันผุของเด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลโคกยาง อำเภอกันตั้ง จังหวัดตรัง. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 6(1), 189-200.
Bandura, A. (1986). Social foundations of thought and action: A social cognitive theory. Prentice-Hall.
Best, J. W. (1997). Research in education. (3rd ed). Prentice Hall Inc.
Bloom, B. S. (1976). Human characteristic and school learning. MaGraw-Hill.
Bloom, B. S. (1968). Learning for mastery. Evaluation Comment. Center for the Study of Instruction Promgrame, University of California at Los Angeles.