พฤติกรรมการดูแลตนเองและการใช้ยาในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขเขตกรุงธนใต้ กรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ยาในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มาใช้บริการศูนย์บริการสาธารณสุขเขตกรุงธนใต้ กรุงเทพมหานคร และขึ้นทะเบียนเบาหวานมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนได้กลุ่มตัวอย่าง 400 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันและสมการถดถอยเชิงพหุ ผลการศึกษาพบว่าพฤติกรรมการใช้ยาโดยรวมอยู่ในระดับดีร้อยละ 58.1 การดูแลตนเองอยู่ในระดับดีเพียงร้อยละ 20.5 แต่อยู่ในระดับต้องปรับปรุงถึงร้อยละ 31.8 ผู้ป่วยเข้าถึงระบบบริการสุขภาพได้ในระดับมากร้อยละ 47.8 ได้รับแรงสนับสนุนทางสังคมในระดับน้อยร้อยละ 89.0 ชนิดของยาที่ใช้ การดูแลตนเอง การเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ และแรงสนับสนุนทางสังคม สามารถร่วมกันอธิบายความผันแปรของพฤติกรรมการใช้ยา 11.7 % เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยเบาหวานมีพฤติกรรมที่ถูกต้อง ทีมสหวิชาชีพ อาสาสมัครสาธารณสุข ต้องเน้นย้ำความสำคัญของการใช้ยาที่สม่ำเสมอ แก่ผู้ป่วยเบาหวาน โดยบุคคลในครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วม
Article Details
Journal of Safety and Health is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) licence, unless otherwise stated.
References
2. กองสร้างเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย. (2560). ข้อมูลจำนวนผู้ป่วยเบาหวานประจำปีงบประมาณ 2560. เข้าถึงเมื่อ 20 มกราคม 2561, จาก http://203.155.220.217/hpd/slide2.html
3. ฉวีวรรณ บุญสุยา. (2544). ประชากรและการเลือกตัวอย่าง.ประมวลสาระชุดวิชา สถิติและระเบียบวิธีวิจัยในงานสาธารณสุข หน่วยที่ 8. นนทบุรี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
4. ชาลิสา จัยสิน. (2560). การวิเคราะห์แบบลอจิสติกลำดับเพื่อทำนายความสามารถของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โรงพยาบาลศรีสะเกษ. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาชีวสถิติ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล, กรุงเทพมหานคร.
5. ธนกร มีนนท์, และนิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์. (2561). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการรับประทานยาเบาหวานในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 28(1), 50-60.
6. วิชัย เอกพลากร. (2559). รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557. นนทบุรี: สำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.
7. วินัดดา ดรุณถนอม. (2562). พฤติกรรมการใช้ยาชนิดรับประทานในผู้ป่วยสูงอายุโรคเรื้อรังใน ตำบลหัวง้ม อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย. เชียงรายเวชสาร, 11(1).
8. วิสุทธิ์ โนจิตต์, สุทิศา สงวนสัจ, สุวัฒนา เกิดเมือง, ศุภสิริ สุขสม, บุษยา ดำคำ, และจันทิมา นวะมะวัฒน์. (2562). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี, 8(2), 200-212.
9. ศิริวรรณ ตั้งจิตกมล. (2558). รายงานเบื้องต้นข้อมูลด้านสุขภาพคนกรุงเทพมหานคร.สืบค้นมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561, จาก https://www.slideshare.net/UtaiSukviwatsirikul/2558-69799344
10. ศิริพร งามขำ, นวรัตน์ สุวรรณผ่อง, มธุรส ทิพยมงคลกุล, และจารุวรรณ หมั่นมี. (2561). การเข้าถึงบริการสุขภาพของผู้สูงอายุ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร. วารสารพยาบาลเกื้อการุณย์, 25(2), 91-104.
11. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. (2560). แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2560 (Vol. 102). กรุงเทพมหานคร: บ. ศรีเมืองการพิมพ์ จำกัด.
12. สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร. (2560). แผนปฏิบัติราชการกรุงเทพมหานคร ระยะ 20 ปี (2556-2575). กรุงเทพมหานคร.
13. สิริมาส วงศ์ใหญ่, วันทนา มณีศรีวงศ์กูล, และพรรณ วดีพุธวัฒนะ. (2557). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ที่มารับบริการคลินิกเบาหวาน. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพมหานคร, 30(2), 80-90.
14. สุปรียา เสียงดัง. (2560). พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 4, 191-204.
15. Chali Segni Wanna et al. (2018). Self-care practice and associated factors among Diabetes Mellitus patients on follow up in Benishangul Gumuz Regional State Public Hospitals, Western Ethiopia: a cross-sectional study. BMC research notes, 11(1).
16. World Health Organization. (2018). Global report on diabetes Mellitus. Retrieved from https://www.who.int/diabetes/global-report/en/