การประเมินความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารไกลโฟเสตและผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรฉีดพ่นสารไกลโฟเสต
Main Article Content
บทคัดย่อ
ผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมในประเทศไทยมีโอกาสป่วยด้วยโรคพิษจากสารเคมีกำจัดวัชพืช อำเภอน้ำพองถือเป็นพื้นที่หลักทางการเกษตรของจังหวัดขอนแก่น การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของเกษตรกรฉีดพ่นสารไกลโฟเสต ด้วยการประยุกต์เมตริกประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพที่พิจารณาจากโอกาสการได้รับสัมผัสสารไกลโฟเสตและความรุนแรงของอาการหลังการใช้สารไกลโฟเสต โดยใช้เครื่องมือคือแบบสัมภาษณ์ในเกษตรกรอาสาสมัครทั้งสิ้น 243 คน พบว่า เกษตกรมีโอกาสการรับสัมผัสสารไกลโฟเสตระดับเล็กน้อยมากที่สุด (2 คะแนน) ร้อยละ 76.95 และผลกระทบต่อสุขภาพคือมีประวัติอาการผื่นคัน มากที่สุด ร้อยละ 9.47 โดยร้อยละ 65.43 เกษตรกรผู้ฉีดพ่นมีค่าความเสี่ยงยอมรับได้มากที่สุด (ระดับ 1) ซึ่งประสบการณ์ฉีดพ่นมากกว่าหรือเท่ากับสิบปี เสื้อผ้าเปียกชุ่มสารเคมีสารไกลโฟเสต การไม่อาบน้ำทันทีภายใน 1 ชั่วโมงหลังฉีดพ่น สภาพอากาศมีเมฆปกคลุมหรือฝนตก และการไม่สวมถุงมือ เป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับอาการแสดงหลังการใช้สารไกลโฟเสตอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนั้นควรมีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้และการป้องกันตนเองที่ถูกต้องในการฉีดพ่นสารไกลโฟเสต และจัดโปรแกรมการเฝ้าระวังทางสุขภาพให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ฉีดพ่นสารไกลโฟเสตในระยะยาวต่อไป
Article Details
Journal of Safety and Health is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) licence, unless otherwise stated.