การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเรื้อน ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง สถาบันราชประชาสมาสัย
คำสำคัญ:
รูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรม, พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วย, โรคไขมันในเลือดสูงบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษา พัฒนา และประเมินผลการใช้รูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเรื้อนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง สถาบันราชประชาสมาสัย วิธีการศึกษา: เป็นการวิจัยและพัฒนา ดำเนินการวิจัยระหว่างวันที่ 16 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 แบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการรูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเอง 2) พัฒนารูปแบบ 3) ทดลองใช้รูปแบบ และ 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ ผู้ป่วยโรคเรื้อนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงและมีระดับคอเลสเตอรอล มากกว่า 200 มก./ดล.จำนวน 10 ราย และบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 10 ราย และงานวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยโรคเรื้อนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงจำนวน 30 ราย และบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 10 ราย ที่ได้จากการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสังเกต และ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ข้อมูลเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมจากแบบสัมภาษณ์เชิงลึก ประชุมเชิงปฏิบัติการ และวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการศึกษา: ระยะที่ 1 รูปแบบเดิมพบว่าผู้ป่วยโรคเรื้อนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและ มีความพิการจากโรคเรื้อน มีพฤติกรรมการดูแลตนเองไม่เหมาะสมในเรื่องอาหาร ออกกำลังกาย การใช้ยา และจัดการความเครียด การส่งเสริมสุขภาพรูปแบบเดิมไม่ชัดเจน มีความต้องการกิจกรรมส่งเสริมการดูแลตนเอง ทีมสุขภาพ และแนวทางปฏิบัติ ระยะที่ 2 รูปแบบใหม่การส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเรื้อนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง สถาบันราชประชาสมาสัย ประกอบด้วย 1) การประเมินภาวะสุขภาพ 2) กิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเอง และ 3) การดูแลต่อเนื่อง โดยมีกระบวนการพัฒนาคือ การวิเคราะห์ปัญหาแบบมีส่วนร่วม การประชุมเชิงปฏิบัติการ และสร้างรูปแบบ ระยะที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบ 2 เดือน และระยะที่ 4 ประเมินผลการใช้รูปแบบ หลังใช้รูปแบบผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก สรุป: รูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยมีภาวะไขมันในเลือดสูง สถาบันราชประชาสมาสัย สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและจะมีความยั่งยืนได้ด้วยความเข้มแข็งของทีมสุขภาพ กิจกรรมส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้แก่ อาหารสุขภาพ กิจกรรมออกกำลังกายและการคลายเครียด ทีมสุขภาพดำเนินกิจกรรมสม่ำเสมอ ติดตามผลการปรับพฤติกรรมและระดับไขมันในเลือดปีละครั้งเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนและโรคหัวใจและหลอดเลือด
เอกสารอ้างอิง
วิชัย เอกพลากร, บรรณาธิการ. การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 6 พ.ศ.2562-2563. นนทบุรี: สำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย; 2564.
ศิรินภา สายชนะ, ไพศรี ตรีผลพันธุ์, ศิริลาวัลย์ เพิ่มทรัพย์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายในผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง. วารสารศูนย์อนามัยที่ 10 2565;10(1):84-98.
ชัญญาวีร์ ไชยวงศ์, ยุพาภรณ์ ติรไพรวงศ์, วิระกาญจน์ สุเมธานุรักขกูล. ปัจจัยคัดสรรที่สัมพันธ์ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง จังหวัดอุดรธานี. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล 2565;38(1):61-72.
World Health Organization. Health Topic [Internet]. 2020 [Cited 2023 Oct 18]. Available from: https://shorturl.asia/jtzWC
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. จำนวนและอัตราตายด้วย 5 โรคไม่ติดต่อ ปี 2560-2564 [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 1 พ.ย. 2566] เข้าถึงได้จาก: https://shorturl.asia/CBQLN
สถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค. สถิติโรคไขมันในเลือดสูง รายงานคลินิกอายุรกรรม 2566. สมุทรปราการ: สถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค; 2566.
สมบัติ ทั่งทอง. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ จังหวัดฉะเชิงเทรา. วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 2566;19(2):25-34.
Orem DE. Nursing: concepts of practices. 4thed. St. Louis: Mosby Year; 1991.
ศุกร์ใจ เจริญสุข, ยุพาวรรณ ทองตะนุนาม, บรรณาธิการ. คู่มือบัตรสร้างสุขภาพ “สบช.โมเดล” 1 วิทยาลัย 1 ชุมชน. กรุงเทพฯ: แดเน็กซ์ อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น จำกัด, 2565.
ธัญรดี จิรสินปก, บรรณาธิการ. มาตรฐานการพยาบาลในโรงพยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 3. นนทบุรี: องค์การทหารผ่านศึก; 2551.
วิไล กุศลวิศิษฐ์กุล. การสุ่มตัวอย่างและการหาขนาดตัวอย่าง.นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช; 2553.
จิตติรัตน์ แสงเลิศอุทัย. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย. วารสารบัณฑิตศึกษา 2558;12(58):15-6.
ปาริชาติ โรจน์พลากร-กู๊ซ, ยุวดี ฤาชา. สถิติสำหรับงานวิจัยทางการพยาบาลและการใช้โปรแกรม SPSS For window. กรุงเทพฯ: จุดทอง;2549.
ลัดดาวัลย์ บูรณวรศิลป์. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการออกกำลังกายในองค์กรแพทย์ โรงพยาบาลมหาสารคาม. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม 2565;19(2):127-37.
วิชาญ มีเครือรอด. ผลของโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพต่อพฤติกรรมสุขภาพ ดัชนีมวลกายและระดับความดันโลหิตสูงของบุคลากรสาธารณสุขอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย. วารสารวิจัยและวิชาการ สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร 2563;1(1):70-84.
โสภาพร กล่ำสกุล. การพัฒนาสื่อสร้างเสริมสุขภาพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตนเองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุตำบลสมอพลือ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี 2563;10(3):125-34.
อัจฉรา มีนาสันติรักษ์, กัญยา ทูลธรรม. ผลการสร้างเสริมสุขภาพโดยประยุกต์ใช้หลัก สบช. โมเดลในนักศึกษาพยาบาล. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล 2566;29(3):19-33.
วรรณภา ประทุมโทน, พนารัตน์ เจนจบ, สมตระกูล ราศิริ, นันทวรรณ ธีรพงศ์. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพแบบมีส่วนร่วมต่อพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพและสถานะสุขภาพของบุคลากรวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2562;28(ฉบับพิเศษ):96-106.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง