ผลการพัฒนาระบบและกลไกการแก้ปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ จังหวัดสมุทรสาคร
คำสำคัญ:
โปรแกรมความรู้และพฤติกรรม, การป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลการพัฒนาระบบและกลไกการแก้ปัญหาวัยรุ่นตั้งครรภ์ จังหวัดสมุทรสาคร วิธีการศึกษา: เป็นการวิจัยและพัฒนา ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2567 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เครือข่าย จำนวน 229 คน และวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 241 คน เครื่องมือในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามความรู้ การมีส่วนร่วมของเครือข่าย การรับรู้ภาวะเสี่ยงการตั้งครรภ์ และพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา Wilcoxon Signed Ranks Test และ Paired t-test ผลการศึกษา: โปรแกรมความรู้และพฤติกรรมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ประกอบด้วย 1) ความรู้เกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร 2) ความรู้การเสริมสร้างพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ทักษะชีวิต และเพศศึกษา 3) ความรู้เกี่ยวกับอนามัยเจริญพันธุ์และการวางแผนครอบครัว 4) ความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ และ 5) แลกเปลี่ยนเรียนรู้และการประเมินผล ผลการศึกษาพบว่า หลังการพัฒนาเครือข่ายมีคะแนนความรู้ในโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) การมีส่วนร่วมโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.004) กลุ่มวัยรุ่นมีค่าเฉลี่ยการรับรู้ภาวะเสี่ยงของการตั้งครรภ์โดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) เข้าถึงข้อมูลและบริการสุขภาพโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) และมีพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) สรุป : หลังดำเนินการจัดกิจกรรมโปรแกรมความรู้และพฤติกรรมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น มีคะแนนพฤติกรรมเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเพิ่มขึ้น
เอกสารอ้างอิง
สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย. รายงานเฝ้าระวังการตั้งครรภ์แม่วัยรุ่น พ.ศ. 2560 Teenage Pregnancy Surveillance Report. นนทบุรี: สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย; 2560.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร. แผนปฏิบัติราชการปี พ.ศ. 2567 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข. สมุทรสาคร: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร; 2567.
ปรีดี นุกุลสมปรารถนา. จำนวน Sample Size ที่เหมาะกับการทำ Research [อินเทอร์เน็ต]. 2564. [เข้าถึงเมื่อ 3 พฤษภาคม 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.popticles.com/marketing/research-sample-size/
วรรณี สินปักษา, สุวรัฐ แลสันกลาง. การนำนโยบายการป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นสู่การปฏิบัติในพื้นที่อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง. วารสาร มจร. มนุษยศาสตร์ปริทรรศน์ 2563;6(1):35-48.
Bloom BS. Hand book on formative and summative evaluation of student learning. New York: McGraw Hill; 1997.
Likert R. The method of constructing an attitude scale, reading in attitude theory and measurement. New York: John Wiley & Son; 1967.
Best JW. Research in education. New Jersey: Prentice Hall Inc, Englewood Cliffs; 1970.
ประภัสสร ปรีเอี่ยม, สอน โฮมแพน, ธรรมนูญ รวีผ่อง, มนูญ เพชรมีแก้ว. กลยุทธขับเคลื่อนกลไกทั้งระบบเพื่อป้องกัน แก้ไขและดูแลปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ของนักเรียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม; 2560.
ศิริรัตน์ อินทรเกษม, พยอม สินธุศิริ, ดารุนนีย์ สวัสดิโชตติ์, ดัชนี สุวรรณคม, จรินทร โคตรพรม, วรนุช ไชยวาน. แนวทางในการส่งเสริมความสำเร็จในการดำรงบทบาทการเป็นมารดาวัยรุ่น: กรณีศึกษาจังหวัดนครพนม. วารสารพยาบาลทหารบก 2562;20(1):128-37.
ปติมา หิริสัจจะ. การพัฒนารูปแบบกลไกดูแลช่วยเหลือวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ให้ได้รับสิทธิตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม 2565;45(1):27-38.
จุฑามาศ โกมลศิริสุข. การพัฒนารูปแบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ของวัยรุ่นจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2561;27(2):253-67.
เสาวลักษณ์ เสียงนัน. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมความมีคุณค่าในตนเองในการปฏิบัติบทบาทการเป็นมารดาต่อภาวะซึมเศร้าหลังคลอดในมารดาวัยรุ่น [วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2561.
หทัยรัตน์ บุณโยปัษฎัมภ์. การดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของสถานศึกษาในกรุงเทพมหานคร. วารสารสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 2565;25(1):77-92.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง