การประเมินผลโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
คำสำคัญ:
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย, ปัจจัยที่มีผลต่อสถานะพัฒนาการเด็ก, พฤติกรรมการใช้คู่มือ DSPMบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อสถานะพัฒนาการของเด็กอายุ 9, 18, 30, 42, 60 เดือน ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ของผู้เลี้ยงดูหลัก ความพึงพอใจการใช้คู่มือ DSPM ของผู้เลี้ยงดูหลัก และระบบการบริหารจัดการโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กฯ
วัสดุและวิธีการ: งานวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบผสมผสาน ประกอบด้วยการศึกษาเชิงปริมาณในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้เลี้ยงดูหลักและเด็กที่มีอายุ 9, 18, 30, 42, 60 เดือน จำนวน 3,970 คน ด้วยการสัมภาษณ์ตามแบบสอบถามและคัดกรองพัฒนาการเด็กด้วยคู่มือ DSPM การศึกษาเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างเป็นบุคลากรสาธารณสุขจำนวน 164 คน ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกตามแนวคำถาม
ผลการวิจัย: พบว่าเด็กปฐมวัยมีพัฒนาการสมวัย ร้อยละ 46.9 เมื่อจำแนกตามอายุ พบเด็กอายุ 9, 18, 30, 42, 60 เดือน มีพัฒนาการสมวัย ร้อยละ 70.0, 47.4, 37.8, 38.2, 41.6 ตามลำดับ ปัจจัยที่มีผลต่อสถานะพัฒนาการของเด็กอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ เขตสุขภาพ อายุของเด็ก เพศของเด็ก การศึกษาของพ่อ สถานภาพความสัมพันธ์ของพ่อแม่เด็ก พื้นฐานอารมณ์ของเด็ก และพฤติกรรมการใช้คู่มือ DSPM ของผู้เลี้ยงดูหลัก ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้คู่มือ DSPM ของผู้เลี้ยงดูหลักอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ เขตสุขภาพ อายุของเด็ก คุณลักษณะของผู้เลี้ยงดูหลัก การได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เจ้าหน้าที่/อสม. อธิบายการใช้คู่มือ DSPM ระดับความพึงพอใจต่อคู่มือ DSPM และพบว่า ผู้เลี้ยงดูหลัก ร้อยละ 49.3 มีความพึงพอใจในการใช้คู่มือ DSPM ในระดับสูง ในส่วนของระบบการบริหารจัดการโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กฯ พบว่า มีการกำหนดโครงการเป็นนโยบายระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ถ่ายทอดลงสู่ผู้ปฏิบัติทุกระดับ ขับเคลื่อนการดำเนินงานผ่านคณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัดและภาคีเครือข่าย 4 กระทรวงหลัก มีการพัฒนาบุคลากรผ่านการอบรม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ นิเทศติดตาม
สรุป: ควรเร่งรัดให้เกิดระบบการติดตามการได้รับและการใช้คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ที่ครอบคลุมมีประสิทธิภาพทั้งในระดับเขตสุขภาพ จังหวัด อำเภอ ตำบล เพิ่มพูนทักษะการใช้คู่มือ DSPM และการแนะนำให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง แก่เจ้าหน้าที่ตึกหลังคลอดและคลินิกเด็กสุขภาพดี ส่งเสริมสนับสนุนให้พ่อแม่ ผู้เลี้ยงดูเด็ก อสม. และภาคีเครือข่ายให้ตระหนักและมีความรู้เกี่ยวกับการใช้คู่มือ DSPM
เอกสารอ้างอิง
Walker SP, Wachs TD, Grantham-McGregor S, Black MM, Nelson CA, Huffman SL, et al. Inequality in early childhood: risk and protective factors for early child development. Lancet 2011;378(9799):1325-38.
World Health Organization. Developmental. Difficulties in early Childhood : prevention, early identification, assessment and intervention in low-and middle income countries : a review. Turkey: Turkey Country office and CEECIS Regional office; 2012.
จินตนา พัฒนพงศ์ธร, วันวิสาห์ แก้วแข็งขัน. รายงานการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัยไทย ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2560. นนทบุรี: สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย; 2561.
นิตยา คชภักดี. พัฒนาการเด็ก. ใน: ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย และคณะ, บรรณาธิการ. ตำราพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กสำหรับเวชปฏิบัติทั่วไป. กรุงเทพฯ : บียอนด์เอ็นเทอร์ไพรซ์ จำกัด; 2554. หน้า 1-25.
นิตยา คชภักดี, อรพินท์ เลิศอวัสดาตระกูล. คู่มือการฝึกอบรมการทดสอบพัฒนาการเด็กปฐมวัย Denver II. พิมพ์ครั้งที่ 4. นครปฐม: สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล; 2556.
สมัย ศิริทองถาวร. การพัฒนาคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2561;63(1):3-12.
กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2562.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. รายละเอียดตัวชี้วัดกระทรวงสาธารณสุขประจำปีงบประมาณ 2563. นนทบุรี: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข; 2563.
กรมอนามัย. รายงานการสำรวจการประเมินผลกระทบเบื้องต้นของสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยต่อการให้บริการในคลินิกฝากครรภ์ (ANC) และคลินิกเด็กสุขภาพดี (WCC). นนทบุรี: กรมอนามัย; 2564.
บุษบา อรรถวีร์, บำเพ็ญ พงศ์เพชรดิถ. การติดตามการคัดกรองพัฒนาการเด็กโดยคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เขตสุขภาพที่ 5. [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 1 ต.ค. 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://hpc.go.th/rcenter/index.php mode=viewrecord&mid=20190521213956_4243&kw
รัตโนทัย พลับรู้การ. ความผูกพันระหว่างเด็กกับผู้เลี้ยงดู : จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติ. ใน: ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย และคณะ, บรรณาธิการ. ตำราพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก เล่ม 3 การดูแลเด็กสุขภาพดี. กรุงเทพฯ: บียอน เอ็นเทอร์ไพร์ซ จำกัด; 2556. หน้า 11 – 8.
จุฑามาส วรโชติกำจร. พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม. ใน: ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย และคณะ, บรรณาธิการ. ตำราพัฒนาการแลพฤติกรรมเด็ก เล่ม 3 การดูแลเด็กสุขภาพดี. กรุงเทพฯ: บียอน เอ็นเทอร์ไพร์ซ จำกัด; 2556. หน้า 53 – 65.
บุษบา อรรถาวีร์, บำเพ็ญ พงศ์เพชรดิต. รูปแบบการใช้คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี. วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2561;13(3):229-42.
เปรมฤทัย เกตุเรณ, พรชเนตต์ บุญคง, ธีรชัย บุญยะลีพรรณ. ผลของการฝึกทักษะในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการบุตรของมารดาหลังคลอดหรือผู้เลี้ยงดูหลักในประเทศไทย. นนทบุรี: กรมอนามัย; 2563.
ศูนย์อนามัยที่ 1-12 กรมอนามัย. รูปแบบส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยแบบองค์รวม. นนทบุรี: กรมอนามัย; 2561.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ด้านสาธารณสุขฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2. นนทบุรี: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข; 2561.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง