อาการไม่พึงประสงค์ภายหลังการรับวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเด็กช่วงอายุ 5-11 ปี

ผู้แต่ง

  • ชุติมณฑน์ สิงห์เขียว สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
  • ฉัตรธิดา ศรีภู่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
  • วิภาวี ดีหมื่นไวย์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา

คำสำคัญ:

อาการไม่พึงประสงค์, วัคซีนโควิด-19, อาการรุนแรง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระบาดวิทยาของลักษณะอาการและความรุนแรงที่ไม่พึงประสงค์ภายหลังการรับวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเด็กนักเรียนช่วงอายุ 5 – 11 ปี ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงพรรณนาย้อนหลังแบบภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 5 ถึง 11 ปี ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและได้รับวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อยแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ยี่ห้อใดก็ได้ตามนโยบายของรัฐบาลกำหนด ภายในระยะเวลา 1 เดือน ณ วันที่เข้าร่วมวิจัย จำนวน 1,232 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายตามรายชื่อโรงเรียนในประเทศไทย มีการเก็บข้อมูลระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2565 โดยใช้คำถามระบบออนไลน์ หรือ Google form เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียนร่วมกันตอบคำถาม การวิจัยนี้วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ 2 แบบ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา เพื่อคำนวณ จำนวนและร้อยละ สำหรับตัวแปรเชิงคุณภาพ ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐานและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับตัวแปรเชิงปริมาณ เพื่ออธิบายคุณลักษณะส่วนบุคคล และสถิติเชิงอนุมาน เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลเชิงปริมาณ ด้วยการทดสอบค่า t-test ในการเปรียบเทียบอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ระหว่างกลุ่มนักเรียนช่วงอายุ 5-8 ปี (กลุ่ม 1) และ 9-11 ปี (กลุ่ม 2) หาค่า odds ratio ของแต่ละอาการไม่พึงประสงค์ และใช้การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติคแบบไบนารี่ เพื่อปรับอิทธิพลของตัวแปรที่คาดว่าจะเป็นตัวแปรก่อกวน ทั้งนี้การเปรียบเทียบนักเรียนสองกลุ่มดังกล่าวเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างอาการไม่พึงประสงค์กับช่วงอายุของผู้รับบริการวัคซีน

ผลการวิจัยครั้งนี้พบว่า มีนักเรียนที่มีอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวน 865 ราย (ร้อยละ 70.21) แบ่งเป็นนักเรียนกลุ่ม 1 จำนวน 302 ราย (ร้อยละ 67.11) และกลุ่ม 2 จำนวน 563 ราย (ร้อยละ 71.99) โดยทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ค่า adjusted odds ratio 1.26 95%CI 0.96-1.64) อาการที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เจ็บหรือปวดบริเวณที่ฉีด (ร้อยละ 40.50) ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (ร้อยละ 26.87) และอ่อนเพลีย (ร้อยละ 12.42) ตามลำดับ  โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 มีอาการรุนแรงมากกว่าเข็มที่ 1 และ 2 และมี 1 รายที่แพทย์ให้การวินิจฉัยเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ  อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในการวิจัยครั้งนี้

เอกสารอ้างอิง

He X, Hong W, Pan X, Lu G, Wei X. SARS-CoV-2 Omicron variant: characteristics and prevention. Med Comm (2020) 2021;2(4):838-45

กรมควบคุมโรค. โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 19 ม.ค. 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/situation.php

กรมควบคุมโรค. สถานการณ์เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังการได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 19 ม.ค.2565]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/situation.php

Sievertsen HH, Burgess S. Schools, skills, and learning: the impact of COVID-19 on education [Internet]. 2020 [cited 2022 Jan 18]. Available from: https://voxeu.org/article/impact-covid-19-education

Frenck RW Jr, Klein NP, Kitchin N, Gurtman A, Absalon J, Lockhart S, et al. Safety, immunogenicity, and efficacy of the BNT162b2 Covid-19 vaccine in adolescents. N Engl J Med 2021;385(3):239-50

Woodworth KR, Moulia D, Collins JP, Hadler SC, Jones JM, Reddy SC, et al. The advisory committee on immunization practices’ interim recommendation for use of Pfizer-BioNTech COVID-19 vaccine in children aged 5–11 years - United States, November 2021. MMWR Mord Mortal Wkly Rep 2021;70(45):1579-83.

Wu Z, Hu Y, Xu M, Chen Z, Yang W, Jiang Z, et al. Safety, tolerability, and immunogenicity of an inactivated SARS-CoV-2 vaccine (CoronaVac) in healthy adults aged 60 years and older: a randomised, double-blind, placebo-controlled, phase 1/2 clinical trial. Lancet Infect Dis 2021;21(6):803-12.

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. อย. อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ในกลุ่ม 5-11 ปี [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 20 ธ.ค.2564]. เข้าถึงได้จาก: https://www.fda.moph.go.th/Pages/HomeP_D2.aspx

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. อย. อนุมัติวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์มในเด็ก 6 ปีขึ้นไป [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 4 ก.พ.2565]. เข้าถึงได้จาก: https://www.fda.moph.go.th/Pages/HomeP_D2.aspx

Aguila MRD, Gonzalez-Ramirez A. Sample size calculation. Allergol Immunopathol (Madr) 2014;42(5):485-92.

Walter EB, Talaat KR, Sabharwal C, Gurtman A, Lockhart S, Paulsen GC, et al. Evaluation of the BNT162b2 Covid-19 vaccine in children 5 to 11 years of age. N Engl J Med 2022;386(1):35-46.

Berg SK, Wallach-Kildemoes HW, Rasmussen LR, Nygaard U, Bundgaard H, Petersen MNS, et al. Short and long term reported symptoms in adolescents aged 12-19 years after vaccination against SARS-CoV-2 compared to adolescents not vaccinated – a danish retrospective cohort study. Vaccines (Basel) 2022;10(11):1863.

World Health Organization. How do vaccine work? [Internet] 2020 [cited 2022 Dec 10]. Available from: https://www.who.int/news-room/feature-stories/detail/how-do-vaccines-work?gclid=Cj0KCQiA1sucBhDgARIsAFoytUuC_xEuswsXbJ2br-z4mxVQmwMtscvOXz685Tp8Nk25zMxKoyL2QU8aAuhfEALw_wcB

Lounis M, Rais MA, Bencherit D, Aouissi HA, Oudjedi A, Klugarova J, et al. Side effects of COVID-19 inactivated virus vs. adenoviral vector vaccines: experience of Algerian healthcare workers. Frontiers in Public Health 2022;10:896343.

Infectious Disease Advisor. COVID-19 mRNA vaccine lined to higher adverse event risk vs traditional vaccines [Internet]. 2022 [2022 Dec 10]. Available from: https://www.infectiousdiseaseadvisor.com/home/topics/covid19/safety-and-risks-of-covid-19-mrna-vaccines-compared-with-other-vaccines/

Oster ME, Shay DK, Su JR, Gee J, Creech CB, Broder KR, et al. Myocarditis case reported after mRNA-Based COVID-19 vaccination in the US From December 2020 to August 2021. JAMA 2022;327(4):331-40.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

เผยแพร่ 2023-01-16 — ปรับปรุง 2023-01-17

เวอร์ชัน

รูปแบบการอ้างอิง

1.
สิงห์เขียว ช, ศรีภู่ ฉ, ดีหมื่นไวย์ ว. อาการไม่พึงประสงค์ภายหลังการรับวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเด็กช่วงอายุ 5-11 ปี. JPMAT [อินเทอร์เน็ต]. 17 มกราคม 2023 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];12(3):624-36. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JPMAT/article/view/257715

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย