การพัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพของชุมชน เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

ผู้แต่ง

  • กฤตพงษ์ โรจนวิภาต โรงพยาบาลเวียงสา จังหวัดน่าน
  • เวณิกา โนทา โรงพยาบาลเวียงสา จังหวัดน่าน
  • ชุติพา ปัญญา โรงพยาบาลเวียงสา จังหวัดน่าน

คำสำคัญ:

โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง, ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, หมู่บ้านการจัดการสุขภาพ

บทคัดย่อ

     โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีสาเหตุจากหลายปัจจัยเสี่ยงที่เกิดจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เหมาะสม โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.วิเคราะห์สถานการณ์และความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้ป่วยในชุมชน 2.พัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพของชุมชนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้ป่วย และ    3.ประเมินผลลัพธ์ โดยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา ใน 17 หมู่บ้านจาก 17 ตำบล อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน การศึกษาใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา มีขั้นตอนการดำเนินงาน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 วิเคราะห์สถานการณ์และความรอบรู้ด้านสุขภาพของกลุ่มผู้ป่วย ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ในการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละชุมชน ระยะที่ 3 การประเมินผลรูปแบบการสร้างความรอบรู้ในการดูแลสุขภาพของชุมชน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติเชิงพรรณนา จำนวน ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และสถิติ t-test ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี ตั้งแต่ตุลาคม 2561 ถึง กันยายน 2562

ผลการศึกษาพบว่า ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็น ร้อยละ 60 อยู่ในช่วง อายุ 60 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 65 ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร คิดเป็นร้อยละ 52 หลังดำเนินการครบ 6 เดือน พบว่ากลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ มีความรู้ในการส่งเสริมสุขภาพที่ถูกต้องตามหลัก 3อ2ส มีการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ การบอกต่อโน้มน้าวจูงใจให้ปฏิบัติตาม มีการวางแผน จัดการเพื่อการปรับเปลี่ยน รวมทั้งมีระดับของพฤติกรรมตามหลัก 3อ2ส ที่ดีมากขึ้นหลังร่วมโครงการโดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ในส่วนของความเข้าใจหลัก 3อ2ส และการตัดสินใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และลดสุรา บุหรี่ ยังไม่ดีขึ้นหรือไม่แตกต่างกันในทางสถิติ ด้านผลลัพธ์ทางสุขภาพ  พบสัดส่วนของผู้ที่มีรอบเอวไม่เกินเกณฑ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 สัดส่วนกลุ่มที่ความดันโลหิตปกติ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 และ สัดส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่ระดับน้ำตาลไม่เกินเกณฑ์ เพิ่มขึ้นเพียง ร้อยละ 0.2 โดยมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทุกตัว (P<0.05) ยกเว้นผู้ป่วยที่อ้วนไม่เกินเกณฑ์(กลุ่มดัชนีมวลกาย < 25 กก./ม.2) ที่ไม่มีความแตกต่างกัน ทั้งนี้พบว่าปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ ได้แก่ เป็นชุมชนที่มีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง มีนโยบาย สื่อสาร, มีสถานที่สำหรับออกกำลังกายในชุมชน, มีมาตรการชุมชนที่หลากหลาย, มีกิจกรรมการให้ความรู้กลุ่มเป้าหมาย, การใช้สมุดประจำตัวบันทึกพฤติกรรม 3อ2ส, การชื่นชมกลุ่มป่วยที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, การติดตามด้วย อสม., และการติดตามเยี่ยมผู้ป่วยที่บ้าน ดังนั้นควรมีการขยายรูปแบบการดำเนินการไปยังพื้นที่หมู่บ้านอื่นๆ โดยปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่

เอกสารอ้างอิง

1. อนันต์ กนกศิลป์. กลุ่มรายงานมาตรฐาน การป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ. [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี:ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข; [เข้าถึงเมื่อ 15 ม.ค.2562]. เข้าถึงได้จาก: https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/page.php?cat_id=6a1fdf282fd28180eed7d1cfe0155e11
2. สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังโดยยึดชุมชนเป็นฐาน. นนทบุรี:กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2560.
3. สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ. รายงานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เรื่อง การปฏิรูปความรอบรู้และการสื่อสารสุขภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร; 2559.
4. ธีรวุฒิ เอกะกุล. ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตรและสังคมศาสตร. อุบลราชธานี:สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี; 2543.
5. กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. การประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพ (HEALTH LITERACY) ของประชาชนเรื่อง 3อ2ส. นนทบุรี:กระทรวงสาธารณสุข; 2557.
6. กิตติพศ วงศ์นิศานาถกุล. ความฉลาดทางสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เข้ารับบริการ ณ ศูนย์เวชปฏิบัติครอบครัว โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 2561;8:49-61.
7. อุทัย เจริญจิตต์. ผลของการใช้โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพในผู้ป่วยโรคเบาหวานต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตาม 3อ2ส ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลบ้านโป่ง. วารสารหัวหินสุขใจไกลกังวล 256;3:58-72.
8. พงษ์ศิริ งามอัมพรนารา. ความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. [วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2560.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-09-10

รูปแบบการอ้างอิง

1.
โรจนวิภาต ก, โนทา เ, ปัญญา ช. การพัฒนารูปแบบการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพของชุมชน เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน. JPMAT [อินเทอร์เน็ต]. 10 กันยายน 2020 [อ้างถึง 13 ธันวาคม 2025];10(2):274-90. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JPMAT/article/view/244966

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย