ปัจจัยที่มีผลต่อโรคอ้วนรุนแรงเปรียบเทียบกับโรคอ้วนและเด็กน้ำหนักปกติในเด็กวัยเรียน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
โรคอ้วนรุนแรง, โรคอ้วน, ปัจจัยการเกิดโรคอ้วน, โรคอ้วนในเด็กบทคัดย่อ
โรคอ้วน เป็นโรคไม่ติดต่อที่เป็นปัญหามากขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ปัจจุบันเกณฑ์การวินิจฉัยโรคอ้วนในเด็ก แบ่งผู้ป่วยที่มีภาวะโภชนาการเกินเป็น กลุ่มโรคอ้วนรุนแรง (morbid obesity) โรคอ้วน (obesity) และภาวะน้ำหนักเกิน (overweight) โดยกลุ่มโรคอ้วนรุนแรง เป็นภาวะที่เจอได้ไม่บ่อย แต่มีความสำคัญคือทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามมา เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ดังนั้นผู้วิจัยมีความสนใจเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อโรคอ้วนรุนแรง วัตถุประสงค์งานวิจัยคือเพื่อหาปัจจัยที่มีผลต่อโรคอ้วนรุนแรงเปรียบเทียบกับโรคอ้วนและเด็กน้ำหนักปกติ งานวิจัยฉบับนี้เป็นงานวิจัยแบบ cross-sectional study ในเด็กวัยเรียนที่มีอายุ 4-14 ปี โดยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับโรคอ้วนรุนแรงเปรียบเทียบกับโรคอ้วนและเด็กที่มีภาวะโภชนาการปกติโดยใช้แบบสอบถาม ข้อมูลจากผู้ป่วยในคลินิกเบาหวานและโภชนาการเด็กมีจำนวน 108 ราย เป็นโรคอ้วนรุนแรงและโรคอ้วน และข้อมูลจากโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยาที่มีภาวะโภชนาการปกติจำนวน 133 ราย ผลการวิจัยมีดังนี้ ปัจจัยที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างผู้ป่วยโรคอ้วนรุนแรง โรคอ้วนและผู้ไม่เป็นโรค คือ จำนวนคนเป็นเบาหวานในครอบครัว, การมีผู้ดูแลและผู้ทำอาหารเป็นบิดาหรือมารดาและจำนวนครั้งของการเล่นกีฬามากกว่า 30 นาทีต่อสัปดาห์ ข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญด้านการป้องกันโรคอ้วนในเด็ก เช่น ให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบอาหารรวมถึงความรู้เกี่ยวกับโภชนาการเด็ก รวมถึงเสริมสร้างการออกกำลังกายที่เหมาะสมแก่เด็ก เพื่อเป็นการป้องกันโรคอ้วน
เอกสารอ้างอิง
2. Slyper AH. Childhood obesity, adipose tissue distribution, and the pediatric practitioner. Pediatrics 1998;102:e4.doi:10.1542/peds.1021.e4
3. Dommelen PV, Schinbeck Y, Buuren SV, HiraSing RA. Trends in a life threatening condition: morbid obesity in Dutch, Turkish and Moroccan children in the Netherlands. PLoS One 2014;9:e94299.doi:10.1371/journal.pone.0094299. eCollection 2014.
4. Chang HC, Yang HC, Chang HY, The CJ, Chen HH, Huang KC, et al. Morbid obesity Taiwan: prevalence, trends, associated social demographics, and lifestyle factors. PLOS one 2017:1-13.
5. Panadda Hatthachote, Ram Rangsin, Mathirut Mungthin, Boonsub Sakboonyarat. Trends in the prevalence of obesity among young Thai men and associated factors: from 2009 to 2016. Mil Med Res 2019;6:13.doi:10.1186/s40779-019-0201-1
6. ลัดดา เหมาะสุวรรณ, วิชัย เอกพลากร, นิชรา เรืองดารกานนท์, ปราณี ชาญณรงค์, ภาสุรี แสงศุภวนิช. รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ.ศ.2551-2552 สุขภาพเด็ก; 2552.
7. วิชัย เอกพลากร, หทัยชนก พรรคเจริญ, กนิษฐา ไทยกล้า, วราภรณ์ เสถียรนพเก้า. รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ.2557; 2557.
8. กระทรวงสาธารณสุข. ร้อยละเด็กชั้น ป.1-ม.3 ได้รับการคัดกรองเด็กอ้วนกลุ่มเสี่ยง Obesity sign. [อินเตอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 12 ส.ค.2563]. เข้าถึงได้จาก :https://aya.hdc.moph.go.th/hdc/main/search.php?search=อ้วน
9. ชมรมโภชนาการเด็กแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติการป้องกันและรักษาโรคอ้วนในเด็ก 2557. กรุงเทพฯ: ชมรมโภชนาการเด็กแห่งประเทศไทย; 2557.
10. ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย. แนวทางการวินิจฉัยและรักษาเด็กที่นอนกรนและมีต่อมทอนซิลและหรืออะดีนอยด์โต; 2556.
11. Holm VA, Cassidy SB, Butler MG, Hanchett JM, Greenswag LR, Wgitman BY, et al. Prader-Willi Syndrome: Consensus Diagnostic Criteria. Pediatrics 1993;91:398-402.
12. Naylor R, Johnson AK, del Gaudio D. Maturity-Onset Diabetes of the young overview synonym: MODY overview. GeneReviews [Internet]. 2018 [cited 2020 Aug 12]. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK500456/
13. Nutrition Division, Department of Health, Minister of Public Health Thailand. National growth reference for children under 20 years of age. Nonthaburi: Department of Health; 1999.
14. Teechay Nonboonyawat, Wuttipat Pasanasuwannasri, Nattanon Chanrat, Natta Wongthanavimol, Danutanut Tubngern, Piengkwan Panutrakul, et al. Prevalence and associates of obesity and overweight among school-age children in a rural community of Thailand. Korean J Pediatr 2019;62:179-86.
15. Abdelaal M, le Roux CW, Docherty NG. Morbid obesity and mortality associated with obesity. Ann Transl Med 2017;5:161.doi:10.21037/atm.2017.03.107
16. Booth HP, Charlton J, Gulliford MC. Socioeconomic inequality in morbid obesity with body mass index more than 40 kg/m2 in the United States and England. SSM-population Health 2017:172-8.
17. Bunnag C, Jareoncharsri P, Tantilipikorn P, Vichyanond P, Pawankar R. Epidemiology and current Status of allergic rhinitis and asthma in Thailand-- ARIA Asia-Pacific Workshop report. Asian Pac J Allergy Immunol 2009;27:79-86.
18. Lo JC, Chandra M, Sinaiko A, Daniels SR, Prineas RJ, Maring B, et al. Severe obesity in children: prevalence, persistence and relation to hypertension. Int J Pediatr Endocrinol 2014; doi:10.1186/1687-9856-2014-3
19. Kohut T, Robbins J, Panganiban J. Update on childhood/adolescent obesity and its sequela. Curr Opin Pediatr 2019;31:645-53.
20. Narang I, Mathew JL. Childhood obesity and obstructive sleep apnea. J Nutr Metab 2012; doi:10.1155/2012/134202
21. Borgeraas H, Barstad LH, Lund RS, Fredheim JM, Hertel KH, Hjelmeseth J. Association of time of obesity onset with comorbidities in treatment-seeking men and women with severe obesity. Obesity Science & Practice 2018:427-36.
22. Shi H, Jiang B, Sim JDW, Chum ZZ. Factors associated with obesity: a case-control study of young adult Singaporean males. Millitary Medicine 2014;179:1158-65.
23. Wethington H, Pan L, Sherry B. The association of screen time, television in the bedroom, and obesity among school-age youth: 2007 national survey of children’s health. J Sch Health 2015;83:1-16.
24. Bornhorst C, Wijnhoven TMA, Kunesova M, Yngve A, Rito AI, Lissner L, et al. WHO European childhood obesity surveillance initiative: associations between sleep duration, screen time and food consumption frequencies. BMC Public Health 2015;15:1-11.
25. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. รายงานสถานการณ์สุขภาพ พ.ศ.2559 [อินเทอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 12 ส.ค.2563]. เข้าถึงได้จากhttps://www.nationalhealth.or.th/sites/default/files/upload_files/Health%20Situation%20Report%20_2559.pdf
26. Park SH, Kim MJ, Park CG, McCreary L, Patil C, Norr KF. Family factors and body mass index among Korean-American preschoolers. J Pediatr Nurs 2015;30:e101-11.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
