การประเมินระบบเฝ้าระวังโรคอีสุกอีใสในกลุ่มวัยเรียน ของโรงพยาบาลชุมชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
อีสุกอีใส, การประเมินระบบเฝ้าระวัง, โรงพยาบาลชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาบทคัดย่อ
โรคอีสุกอีใสเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของเด็กวัยเรียนในประเทศไทย โดยอัตราป่วยต่อแสนประชากรย้อนหลัง 5 ปีของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสูงกว่าระดับประเทศ ผู้วิจัยจึงได้ทำการศึกษาประเมินระบบเฝ้าระวังโรคอีสุกอีใสในกลุ่มวัยเรียนของโรงพยาบาลชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อศึกษาคุณลักษณะเชิงคุณภาพและปริมาณ โดยเป็นการศึกษาแบบตัดขวาง ได้แก่ ค่าความไว ค่าคาดทำนายของผลบวก ความเป็นตัวแทน ความสมบูรณ์ของข้อมูล และความทันเวลาการรายงานของระบบเฝ้าระวัง ด้วยการทบทวนเวชระเบียนของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคในระบบ ICD-10 ซึ่งมีอาการและอาการแสดงเข้าได้กับนิยามการเฝ้าระวังโรคอีสุกอีใสในกลุ่มวัยเรียนอายุ 5-21 ปีที่มารับบริการในโรงพยาบาลชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559-31 ตุลาคม 2560 โดยได้ทำการแบ่งโรงพยาบาลชุมชนออกเป็น 3 กลุ่มตามอัตราป่วยจากการปรับด้วยวิธีตรง เป็นกลุ่มอุบัติการณ์ สูง ปานกลางและต่ำ และทำการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับระบบเฝ้าระวังเพื่อศึกษาคุณลักษณะเชิงคุณภาพ ได้แก่ การยอมรับ ความยืดหยุ่น ความมั่นคง ความยากง่าย และการนำไปใช้ประโยชน์ ผลการทบทวนเวชระเบียนของผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสและโรคใกล้เคียง พบผู้ป่วยเข้านิยามการเฝ้าระวังโรค 326 ราย ถูกรายงานเข้าในระบบรายงาน 506 จำนวน 320 ราย ค่าความไวของระบบเฝ้าระวังเท่ากับร้อยละ 98.15 และพบผู้ป่วยที่รายงานในระบบรายงาน 506 ทั้งหมด 342 รายเป็นผู้ป่วยที่เข้านิยามการเฝ้าระวังโรค 320 ราย ค่าคาดทำนายของผลบวกเท่ากับร้อยละ 93.56 ข้อมูลในระบบรายงาน 506 สอดคล้องกับข้อมูลจากเวชระเบียน ข้อมูลทั่วไปครบถ้วนถูกต้อง และความทันเวลาเท่ากับร้อยละ 74.54 คุณลักษณะเชิงคุณภาพพบปัญหาความยืดหยุ่นของระบบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังพบปัญหาด้านความมั่นคงของระบบคอมพิวเตอร์ที่ส่งผลให้รายงานล่าช้าหรือไม่ได้รายงาน ด้านการยอมรับความยากง่ายและการนำไปใช้ประโยชน์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียส่วนใหญ่เห็นคล้องด้วย การจัดหาเจ้าหน้าที่ระบาดวิทยาให้เพียงพอและการพัฒนาระบบสื่อสารข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาระบบรายงานโรคให้ดีขึ้น
เอกสารอ้างอิง
2. สุริยะ คูหะรัตน์. นิยามโรคติดเชื้อประเทศไทย. นนทบุรี: กองระบาดวิทยา สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข; 2544.
3. เลิศฤทธิ์ ลีลาธร. ผลการวิเคราะห์ระบบ เฝ้าระวัง 5 กลุ่มโรค 5 มิติ. นนทบุรี: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2558.
4. วิทิตา แจ้งเอี่ยม, อรนิดา พุทธรักษ์. การประเมินระบบเฝ้าระวังของโรคสุกใส โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ปี พ.ศ. 2558 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. ภูเก็ต: โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต; 2560.
5. ณัฐกานต์ อุ่นไพร, วรรณา วิจิตร, อัจฉราวรรณ ช้างพินิจ, ภูดิศศักดิ์ ท่อศิริโภควัฒน์. การประเมินระบบเฝ้าระวังโรคหัดของโรงพยาบาล 46 แห่งในเครือข่ายบริการที่ 2 ในปี พ.ศ. 2555 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. ภูเก็ต: โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต; 2556.
6. สำนักระบาดวิทยา. รายงานสถานการณ์โรค [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 2 พ.ย. 2560]. เข้าถึงได้จาก:http://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/disease.php?ds=17
7. คำนวณ อึ้งชูศักดิ์. พื้นฐานระบาดวิทยา. นนทบุรี: สมาคมนักระบาดวิทยาภาคสนาม; 2557.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง