ประสิทธิผลของการใช้ยาเถาวัลย์เปรียง ในผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อม
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของเถาวัลย์เปรียงเทียบกับยา Diclofenac ในการรักษาผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อม ผู้ป่วยจะถูกคัดกรองโดยใช้แบบประเมินระดับความรุนแรงของโรคข้อเข่าเสื่อม (Oxford Knee Score) ผู้ป่วยที่ผ่านเกณฑ์การคัดเข้าจำนวน 60 คน ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน กลุ่มแรก จะได้รับยา Diclofenac ขนาด 25 มก. วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร เป็นเวลา 10 วัน และกลุ่มที่ 2 ได้รับผงเถาวัลย์เปรียงแคปซูลขนาด 500 มก. วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร เป็นเวลา 10 วัน หลังจากนั้นทำการประเมินคุณภาพชีวิตด้วยแบบสอบถาม WOMAC โดยการประเมินระดับความปวด ระดับอาการข้อฝืด และระดับความสามารถในการใช้งานข้อเข่า ผลการศึกษาพบว่า เถาวัลย์เปรียงมีประสิทธิผลในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโดยสามารถลดการปวด ข้อฝืดและยึด และเพิ่มความสามารถในการใช้ข้อเข่า ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.001) และเมื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลกับ Diclofenac พบว่าไม่มีความแตกต่างกันของค่าเฉลี่ย WOMAC ข้อฝืดและยึด และความสามารถในการใช้งานข้อเข่าระหว่างผู้ป่วยที่ได้รับยา Diclofenac และเถาวัลย์เปรียง แต่พบว่า Diclofenac สามารถลดอาการปวดได้ดีกว่าเถาวัลย์เปรียงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ด้านอาการไม่พึงประสงค์ พบว่าเกิดอาการระคายเคืองระบบทางเดินอาหารในผู้ป่วยที่ได้รับ Diclofenac ร้อยละ 7.14 แต่ไม่พบในผู้ป่วยที่ได้รับเถาวัลย์เปรียง
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. งานผู้สูงอายุ:รายงานประจำปี 2560. พระนครศรีอยุธยา: ม.ป.ท.; 2560. หน้า 142.
3. สมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย. แนวทางเวชปฏิบัติการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม [อินเทอร์เน็ต]. 2554 [เข้าถึงเมื่อ 13 ต.ค. 2560]. เข้าถึงได้จาก: http://www.thairheumatology.org/wp-content/uploads/2016/08/Guideline-for-Management-of-OA-knee.pdf
4. คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ. บัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชีจากสมุนไพร. ปรับปรุงล่าสุดตาม ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติเรื่องบัญชียาหลักแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 ณ วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555 [อินเทอร์เน็ต]. 2555 [เข้าถึงเมื่อ 13 ต.ค.2560]. เข้าถึงได้จาก http://kpo.moph.go.th/webkpo/tool/Thaimed2555.pdf
5. ยุทธพงษ์ ศรีมงคล, ไพจิตร์ วาชิต, ปราณี ชวลิตธำรง, บุษราวรรณ ศรีวรรธนะ, รัดใจ ไพเราะ, จันธิดา อินเทพ และคณะ. การเปรียบเทียบสรรพคุณของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงกับไดโคลฟีแนคเป็นยาบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง. วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 2015;5:17-23.
6. วิระพล ภิมาลย์, วนิดา ไทรชมภู, บรรลือ สังข์ทอง, กฤษณี สระมุณี. การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมานประสิทธิภาพในการลดอาการปวดของเถาวัลย์เปรียง. วารสารเภสัชกรรมไทย 2558;7:54-62.
7. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. ประมวลผลงานวิจัยด้านพิษวิทยา ของสถาบันวิจัยสมุนไพร เล่ม 1. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์การศาสนา; 2546.
8. Chavalittumrong P, Chivapa S, Chuthaputti A, Rattanajarasroj S, Punyamong S. Chronic toxicity study of crude extract of Derris scandens Benth. Songklanakarin Journal of Science and Technology 1999;21:425-33.
9. ปราณี ชวลิตธำรง, สดุดี รัตนาจรัสโรจน์, บุษราวรรณ ศรีวรรธน, ปราณี จันทรเพ็ชร, ศิริมา ปัทมดิลก, ไพจิตร วราชิต. การทดสอบความปลอดภัยของสารสกัดเถาวัลย์เปรียงในอาสาสมัครสุขภาพดี. วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 2548;3:17-23.
10. Tangtrakulwanich B, Wiwatwongwana S, Chongsuvivatwong V, Geater AF. Comparison of validity and responsiveness between general and disease-specific quality of life instruments (Thai version) in knee osteoarthritis. Med Assoc Thai 2006;89:1454-9.
11. ปภัสรา หาญมนตรี, พรรณี ปึงสุวรรณ, ภาวินี เสริมชีพ, วิชัย อึงพินิจพงศ, อุไรวรรณ ชัชวาลย์, รุ้งทิพย์ พันธุเมธากุล. ความเที่ยงในการทดสอบซ้ำและความสัมพันธ์ของแบบประเมิน Western Ontario and McMaster Universities Osteoarthritis ฉบับภาษาไทย กับคะแนนปวดในผู้สูงอายุที่มีภาวะข้อเข่าเสื่อม. วารสารเทคนิคการแพทย์และกายภาพบำบัด 2557;26:84-92.
12. Kuptniratsaikul V, Pinthong T, Bunjob M, Thanakhumtorn S, Chinswangwatanakul P, Thamlikitkul V. Efficacy and safety of Derris Scanden Benz extracts in patients with knee osteoarthritis. Journal of alternative and complementary medicine 2011;17:147-53.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง