ผลของการเตรียมความพร้อมญาติผู้ดูแลในการย้ายผู้ป่วย ออกจากหอผู้ป่วยกึ่งวิกกฤตด้านการหายใจต่อความวิตกกังวล และความพึงพอใจ
คำสำคัญ:
โปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการย้ายออก, ญาติผู้ดูแล, ความวิตกกังวล, ความพึงพอใจบทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองแบบเปรียบเทียบระหว่าง 2 กลุ่มที่เป็นอิสระต่อกันครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความวิตกกังวล และความพึงพอใจต่อการบริการพยาบาล ระหว่างญาติผู้ดูแลที่ได้รับการเตรียมความพร้อมในการย้ายออกจากหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤตด้านการหายใจ (RCU) กับญาติผู้ดูแลที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 60 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 30 คน กลุ่มทดลอง 30 คน กลุ่มทดลองได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนย้ายออกจาก RCU กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา โดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า (1) ญาติผู้ดูแลที่ได้รับการเตรียมความพร้อมในการย้ายออกจาก RCU กับญาติผู้ดูแลที่ได้รับการพยาบาลตามปกติมีความวิตกกังวล ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t58=.083, p=.934) (2) ญาติผู้ดูแลที่ได้รับการเตรียมความพร้อมในการย้ายออกจาก RCU มีความพึงพอใจต่อการบริการพยาบาลสูงกว่า ญาติผู้ดูแลที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t58=2.265, p=.027) สรุป โปรแกรมการเตรียมความพร้อมของญาติผู้ดูแลในการย้ายออกจาก RCU ทำให้ญาติผู้ดูแลมีความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วย และเพิ่มความพึงพอใจต่อการบริการพยาบาลได้ จึงควรส่งเสริมให้พยาบาลใช้โปรแกรมนี้ในการเตรียมความพร้อมญาติผู้ดูแล
เอกสารอ้างอิง
2. ฐิติมาภรณ์ พรหมรอด, สุปรีดา มั่นคง, ยุพาพิน ศิรโพธิ์งาม. การได้รับการตอบสนองความต้องการ และการเผชิญความเครียดของญาติก่อนย้ายออกจากหอผู้ป่วยวิกฤต. รามาธิบดีพยาบาลสาร 2554;17:75-89.
3. ปราณี ทองใส, น้ำทิพย์ กุณา, จารุวรรณ พงษ์ปราโมทย์, พันธุ์ศักดิ์ ลักษณบุญส่ง. ผลของโปรแกรมการเตรียมความพร้อมในการย้ายออกจาก ไอ ซี ยู ในผู้ป่วยผ่าตัดทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจและผ่าตัดเปลี่ยน/ซ่อมลิ้นหัวใจ ต่อความวิตกกังวลจากการย้ายและความพึงพอใจ. วารสารพยาบาลศาสตร์ 2554;29:27-36.
4. จรูญลักษณ์ ป้องเจริญ, จันทร์ฉาย มณีวงษ์. ผลของการเตรียมความพร้อมต่อความพร้อมของญาติ/ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองก่อนจำหน่ายกลับบ้าน โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข 2554;21:58-70.
5. Khalaila R. Meeting the needs of patients families in intensive care units. Nurs Stand 2014;28:37-44. doi:10.7748/ns.28.43.37.e8333.
6. Skoog M, Milner KA, Gatti-Petito J, Dintyala K. The Impact of family engagement on anxiety levels in a cardiothoracic intensive care unit. Crit Care Nurse 2016;36:84-9. doi:10.4037/ccn2016246.
7. Pochard F, Darmon M, Fassier T, Bollaert PE, Cheval C, Coloigner M, et al. Symptoms of anxiety and depression in family members of intensive care unit patients before discharge or death. A prospective multicenter study. J Crit Care 2005;20:90-6.
8. อิสรีย์ ศรีศุภโอฬาร, นรลักษณ์ เอื้อกิจ. ผลของโปรแกรมการตอบสนองความต้องการของครอบครัวผู้ป่วยวิกฤตต่อความวิตกกังวลของสมาชิกครอบครัวผู้ป่วยวิกฤต. วารสารพยาบาล สงขลานครินทร์ 2559;36:77-93.
9. Davidson JE. Facilitated sense making : a strategy and new middie-range theory to support families of intensive care unit patients. Crit Care Nurse 2010;30:28-39. doi:10.4037/ccn2010410. Epub 2010 Apr 30.
10. Olding M, McMillan SE, Reeves S, Schmitt MH, Puntillo K, Kitto S. Patient and family involvement in adult critical and intensive care settings: a scoping review. Health Expect 2016;19:1183-1202. doi: 10.1111/hex.12402. Epub 2015 Sep 7
11. นิรมนต์ เหลาสุภาพ, สุปรีดา มั่นคง, ยุพาพิน ศิรโพธิ์งาม. ผลของโปรแกรมการจัดการความเครียดสำหรับญาติผู้ป่วยวิกฤตต่อความเครียดของญาติ. รามาธิบดีพยาบาลสาร 2556;20:67-81.
12. ทศพร ธรรมรักษ์, วัลย์ลดา ฉันท์เรืองวณิชย์, อรพรรณ โตสิงห์, ทวีศักดิ์ เอื้อบุญญาวัฒน์. ผลของโปรแกรมการสนับสนุนครอบครัวต่อการปรับตัวของญาติผู้ดูแล ผู้ป่วยหลังผ่าตัดสมองในหอผู้ป่วยวิกฤต. วารสารสภาการพยาบาล 2560;32:49-64.
13. Subbe CP, Kruger M, Rutherford P, Gemmel L. Validation of a modified early warning score in medical admissions. QJM 2001;94:521-6.
14. ธนา นิลชัยโกวิทย์, มาโนช หล่อตระกูล, อุมาภรณ์ ไพศาลสุทธิเดช. การพัฒนาแบบสอบถาม Hospital Anxiety and Depression Scale ฉบับภาษาไทย. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2539;41:18-30.
15. พารุณี เกตุพราย. ความสัมพันธ์ระหว่างภาระการดูแลบุคคลในครอบครัวที่เจ็บป่วย การดูแลตนเองและการต้องการความช่วยเหลือของญาติที่ทำงานนอกบ้าน. [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2550.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง