ปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้ บริการคลินิกหมอครอบครัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา

ผู้แต่ง

  • ตรีศักดิ์ รีละออง นักศึกษาหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต เอกบริหารโรงพยาบาล สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
  • พาณี สีตกะลิน รองศาสตราจารย์ สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
  • นิตยา เพ็ญศิรินภา รองศาสตราจารย์ สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

คำสำคัญ:

ผู้ใช้บริการ, คลินิกหมอครอบครัว, ปัจจัยส่วนประสมการตลาด, การตัดสินใจ

บทคัดย่อ

     การจัดบริการด้านปฐมภูมิที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาให้กับประชาชนในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยาในรูปแบบคลินิกหมอครอบครัวจำนวน 5 แห่ง เริ่มตั้งแต่ปี 2533 แต่ยังไม่มีการประเมินปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้บริการเลือกมาใช้บริการคลินิกหมอครอบครัวดังนั้นผู้วิจัยจึงต้องการประเมินโดยจัดทำวิจัยเชิงปริมาณนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) คุณลักษณะส่วนบุคคลของประชากรที่เลือกใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัว (2) ปัจจัยส่วนประสมการตลาดในการใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัว (3) ระดับความสำคัญของการตัดสินใจเลือกใช้บริการคลินิกหมอครอบครัว (4) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการตัดสินใจใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัว และ (5) ความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนประสมการตลาดต่อการตัดสินใจเลือกการใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัวของประชาชนอำเภอพระนครศรีอยุธยา ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็น ผู้รับบริการในคลินิกหมอครอบครัว 5 แห่งของอำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง จากประชาชนที่รับผิดชอบของคลินิกหมอครอบครัว จำนวน 400 คน เก็บข้อมูลระหว่าง 10 พฤศจิกายน 2560 ถึง 20 ธันวาคม 2560 โดยใช้เครื่องมือแบบสอบถาม มีค่าความเที่ยงที่ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิตและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และมีการทดสอบโดยใช้สถิติไควร์สแควร์  ผลการศึกษาวิจัยพบว่า (1) คุณลักษณะส่วนบุคคลของประชากรที่เลือกใช้บริการเป็น เพศหญิง 257 คน (64.3%) อายุ 51-60 ปี 101 คน (25.3%) สถานภาพสมรส 245 คน (61.3%) ระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี 290 คน (72.5%) อาชีพธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย 119 คน (29.8%) ใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) 261 คน (65.3%) จำนวนครั้งใช้บริการ 2-5 ครั้ง 200 คน (50.0%) (2) ปัจจัยส่วนประสมการตลาดในการใช้บริการคลินิกหมอครอบครัวค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.23 อยู่ในระดับมากที่สุด (3) ระดับความสำคัญของการตัดสินใจเลือกใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัวค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.30 อยู่ในระดับมากที่สุด (4) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการตัดสินใจใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัว พบว่าจำนวนครั้งที่มาใช้บริการมีความสัมพันธ์กับการเลือกใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p<0.05 (5) ความสัมพันธ์ปัจจัยส่วนประสมการตลาดต่อการตัดสินใจเลือกการใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัวพบว่ามีความสัมพันธ์ ที่ <0.001 แสดงว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p<0.05 ทั้งด้านบริการ ด้านราคา ด้านสถานที่และช่องทางการรับบริการ ด้านส่งเสริมการบริการ ด้านกระบวนการให้บริการ ด้านบุคลากร และด้านลักษณะทางกายภาพ ผลการวิจัยสรุปได้ว่าปัจจัยส่วนประสมการตลาดทั้ง 7 ด้าน ที่ใช้ในการจัดบริการในคลินิกหมอครอบครัวในเขตเมืองของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยามีผลสัมพันธ์กันกับการตัดสินใจเลือกใช้บริการอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ซึ่งผลดังกล่าวสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มอัตราการตัดสินใจเลือกใช้บริการคลินิกหมอครอบครัว โดยหน่วยงานจะพัฒนาคลินิกหมอครอบครัวต้องประเมินส่วนประสมการตลาด ทั้ง 7 ด้าน จากนั้นพิจารณาวางแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติการในแต่ละด้านให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่เพื่อการจัดบริการด้านสุขภาพในคลินิกหมอครอบครัว ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการมาใช้บริการในคลินิกหมอครอบครัวมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการลดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่และทำให้ประชาชนได้รับบริการตรงตามความต้องการอย่างเหมาะสมตามบริบทของพื้นที่สอดคล้องกับนโยบายคลินิกหมอครอบครัว

เอกสารอ้างอิง

1. สำนักงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า. แผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ 2550-2554. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการดำเนินงานยุทธศาสตร์ ความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ; 2550.
2. โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา. สรุปผลการดำเนินงานโครงการ บริการประทับใจ ไร้ความแออัด พัฒนาเครือข่ายจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีที่ 1 พ.ศ. 2549-2550. พระนครศรีอยุธยา: โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา; 2550.
3. กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. จำนวนประชากรในแต่ละจังหวัด [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 11 กรกฎาคม 2558] เข้าถึงได้จาก: https://www.dopa.go.th/
4. Kotler P. Marketing Management : The Millennium edition. 10th ed. NJ: Prentice Hall; 2000.
5. Borden NH. The Concept of the Marketing Mix. Journal of Advertising Research Classic 1984;Sep(2):7-12.
6. นะภา สุวรรณกุล. ปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการทางการแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีของพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมในเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2551.
7. ปิยมาศ จำรัสธนสาร. ปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้รับบริการในการเลือกใช้บริการสุขภาพแผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลศรีสะเกษจังหวัดศรีสะเกษ. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช; 2553.
8. ณรงค์ โพธิ์พฤษานันท์. ระเบียบวิธีวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอร์เน็ท; 2551.
9. ประกายรัตน์ สุวรรณ, อมรวิทย์ วิเศษสงวน. การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS เวอร์ชัน 20. กรุงเทพฯ: วีพริ้นท์ (1991) จำกัด; 2555.
10. ชูชัย สมิทธิไกร. พฤติกรรมผู้บริโภค. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2553.
11. Shiffman LG, Kanuk LL. Consumer Behavior. 5th ed. NJ: Prentice-Hall; 1994.
12. ชนัญญา ศรีลลิตา. ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการร้านกาแฟสดของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร. [การค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนคร; 2551.
13. ธัญธรณ์ ศุภธนาทรัพย์. ปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการคลินิกรักษาผิวพรรณของผู้บริโภคในอำเภอเมืองนครปฐม. [วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณทิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต; 2552.
14. Belch GE, Belch MA. Advertising and promotion : an integrated marketing communications Perspective. 6th ed. Boston : McGraw-Hill; 2005.
15. Gonzalez C. Decision support for real-time, dynamic decision-making tasks. Organizational Behavior and Human Decision Processes 2005;96:142-54.
16. Kotler P, Armstrong G. Principles of Marketing. 8th ed. Prentice-Hall; 1996.
17. พรทิพย์ เกียรติภาคภูมิ. การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคกาแฟสตาร์บัคส์ในกรุงเทพมหานคร. [สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ; 2551.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-01-24

รูปแบบการอ้างอิง

1.
รีละออง ต, สีตกะลิน พ, เพ็ญศิรินภา น. ปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้ บริการคลินิกหมอครอบครัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา. JPMAT [อินเทอร์เน็ต]. 24 มกราคม 2019 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];8(3):360-71. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JPMAT/article/view/167780

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ