ผลการดำเนินงานคลินิกเตรียมผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพื่อการปลูกถ่ายไต ของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2555 - กันยายน พ.ศ. 2558
คำสำคัญ:
การปลูกถ่ายไต, คลินิกเตรียมผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพื่อการปลูกถ่ายไต, ระยะเวลารอปลูกถ่ายไตบทคัดย่อ
การศึกษาเชิงพรรณนา โดยการรวบรวมข้อมูลย้อนหลังจากแฟ้มประวัติการรักษาของผู้ป่วยที่เข้ารับบริการที่คลินิกเตรียมผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพื่อการปลูกถ่ายไต ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 ถึงเดือนกันยายน 2558 เพื่อศึกษาอัตราการปลูกถ่ายไต ชนิดการปลูกถ่ายไต ระยะเวลาการรอเพื่อการปลูกถ่ายไตของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และข้อมูลผู้บริจาคไตที่มีชีวิตของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พบผู้ป่วยจำนวน 87 ราย อายุเฉลี่ย 43.7811.38 ปี ส่วนใหญ่แสดงความจำนงรับการปลูกถ่ายไตชนิดรับไตจากผู้บริจาคสมองตาย ร้อยละ 79.3 จากการศึกษาพบผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีอัตราการปลูกถ่ายไตร้อยละ 10.3 ส่วนใหญ่รับไต จากผู้บริจาคมีชีวิต 6 ราย (ร้อยละ 66.7) เพศหญิงได้รับการปลูกถ่ายไตมากกว่าเพศชาย (5 ราย, 4 ราย ตามลำดับ) อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกถ่ายไต ชนิดรับไตจากผู้บริจาคสมองตาย 44.72
8.11 ปี สูงกว่าชนิดรับไตจากผู้บริจาคมีชีวิต 35.75
15.12 ปี ระยะเวลารอปลูกถ่ายไตของผู้ป่วยชนิดรับไตจากผู้บริจาคสมองตายโดยเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มฟอกไต (44.4
5.9 เดือน) และตั้งแต่เริ่มส่งตัว (18.7
4.8 เดือน) นานกว่าผู้ป่วยชนิดรับไตจากผู้บริจาคมีชีวิต (38.9
22.9 เดือน, 16.8
8.6 เดือนตามลำดับ) ไม่พบผู้ป่วยรายใดต้องรับการฟอกไตหลังได้รับปลูกถ่ายไต ส่วนผู้บริจาคไตที่มีชีวิตจำนวน 6 ราย เป็นเพศหญิงเท่ากับเพศชาย อายุเฉลี่ย 40.06
13.63 ปี ส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผู้รับไต 4 ราย (ร้อยละ 66.7) โดยผู้บริจาคทุกราย ยังสามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ ดังนั้นการให้ความรู้เรื่องการปลูกถ่ายไตอย่างละเอียดและครบถ้วนแก่ผู้ป่วยและญาติ การคัดเลือกผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ไม่มีข้อบ่งห้ามต่อการปลูกถ่ายไต การดูแลผู้ป่วยระหว่างรอปลูกถ่ายไต และการเพิ่มจำนวนไตบริจาคทั้งจากผู้บริจาคที่มีชีวิตและผู้บริจาคสมองตาย จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายจะได้รับการปลูกถ่ายไตเพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและประเทศต่อไป
เอกสารอ้างอิง
2. มณฑิรา อัศนธรรม, อาคม นงนุช. แนวทางการบำบัดทดแทนไตในเวชปฏิบัติทั่วไป. ใน:ไกรวิพร เกียรติสุนทร, บัญชา สถิระพจน์, ขจร ตีรณธนากุล, พงศธร คชเสนี, บรรณาธิการ. Nephrology review for internists. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เท็กซ์ แอนด์ เจอร์นัล พับลิเคชั่น จำกัด 2558. หน้า 389-402.
3. สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย. รายงานข้อมูลการปลูกถ่ายอวัยวะประจำปี พ.ศ. 2557. กรุงเทพมหานคร:สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย; 2558.
4. โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา, ฝ่ายติดตามและประเมินผล. รายงานสรุปข้อมูลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายประจำปีงบประมาณ 2557. พระนครศรีอยุธยา:โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา;2558.
5. Caliskan Y, Yazici H, Gorgulu N, Yelken B, Emre T, Turkmen A, Yildiz A, et al. Effect of Pre-Transplant dialysis modality on kidney transplantation outcome. Perit Dial Int 2009; 29(S2):S117-S122.
6. นันทา มหัธนันท์, ปิยาภรณ์ โทวันนัง. Nursing aspect for CAPD. ใน:รศ.นพ.เถลิงศักดิ์ กาญจนบุษย์, บรรณาธิการ. แนวปฏิบัติการล้างไตทางช่องท้อง. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ:บริษัทศิริวัฒนาอินเตอร์พริ้นท์ จำกัด 2556. หน้า 587-617.
7. โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา, ฝ่ายติดตามและประเมินผล. รายงานสรุปข้อมูลศูนย์รับบริจาคอวัยวะของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาประจำปีงบประมาณ 2552-2557. พระนครศรีอยุธยา: โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา; 2558.
8. ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย. รายงานประจำปี 2557. กรุงเทพมหานคร:ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย;2558.
9. Meier-Kriesche HU, Port FK, Ojo AO, Rudich SM, H anson JA, Cibrik DM, Leichtman AB, et al. Effect of waiting time on renal transplant outcome. Kidney Int 2000; 58(3)1311-17.
10. Reese P, Shults J, Bloom R, Mussell A, Harhay M, Abt P, Levine M, et al. Functional status, time to transplantation, and survival benefit of kidney transplantation among Wait-listed candidates. Am J Kidney Dis 2015:66(5)837-45.
11. Jaseanchiun W, Sirithanaphol W, Chotikawanich E, Chau-in S, Pacheerat K, Uttaravichien T. Quality of Life after Donor Nephrectomy for Living Donor Kidney Transplantation at Srinagarind Hospital. J Med Assoc Thai 2012; 95 (Suppl. 11): S15-S17.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง