ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ ทัศนคติ กับการปฏิบัติตนในการป้องกันโรค ไข้เลือดออกของประชาชนในเขตอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี

บทคัดย่อ

     การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ ทัศนคติกับการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคไข้เลือดออกของประชาชนในเขตอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี โดยศึกษาในประชากร จำนวน 384 ตัวอย่าง รวบรวมข้อมูลโดยการสอบถามผู้แทนครัวเรือน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาความสัมพันธ์โดยใช้ไคสแควร์ และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
     ผลการวิจัยพบว่าการรับรู้เรื่องการดำเนินงานป้องกันโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับมาก ( = 8.74, S.D. = 1.522) ทัศนคติต่อโอกาสเสี่ยงของโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับมาก (= 37.83, S.D. = 3.364) ทัศนคติต่อความรุนแรงของโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับมาก (= 37.88, S.D. = 4.644) ทัศนคติต่อประโยชน์ของการป้องกันโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับปานกลาง (= 36.39, S.D. = 5.212) ทัศนคติต่ออุปสรรคในการป้องกันโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับปานกลาง (= 33.18, S.D. = 3.435) สรุปทัศนคติต่อการป้องกันโรคไข้เลือดออกในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง ( = 145.29, S.D. = 11.862) และการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคไข้เลือดออกอยู่ในระดับปานกลาง (= 34.72, S.D. = 6.333) การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์พบว่า อายุ อาชีพ การเข้าร่วมกิจกรรมในการป้องกันโรคไข้เลือดออก การรับรู้การดำเนินงานป้องกันโรคทัศนคติต่อโอกาสเสี่ยงของโรคไข้เลือดออก และทัศนคติต่อความรุนแรงของโรคไข้เลือดออก มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคไข้เลือดออกของประชาชน (p-value < 0.01)
     ผลการวิจัยในครั้งนี้สามารถใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยการส่งเสริมให้ประชาชนมีการรับรู้การดำเนินการป้องกันโรคไข้เลือดออก ให้มีทัศนคติต่อโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค ความรุนแรงของโรค เพิ่มมากขึ้นจะทำให้การปฏิบัติตนในการป้องกันโรคไข้เลือดออกดีขึ้นและควรมีการประชาสัมพันธ์ในเรื่องการป้องกันโรคไข้เลือดออก และทราบถึงประโยชน์ในการป้องกันโรคไข้เลือดออกให้มากขึ้นโดยเฉพาะในประชาชนกลุ่มที่มีอายุน้อยๆ กลุ่มอาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ/เอกชน และรับจ้าง ซึ่งมีระดับการปฏิบัติตนในการป้องกันโรคไข้เลือดออกน้อยกว่ากลุ่มอื่น