การพัฒนาระบบการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาและเครือข่าย

ผู้แต่ง

  • สุพรรณี ขันธศุภ กลุ่มการพยาบาล
  • ศรีสุรีย์ สูนพยานนท์ หอผู้ป่วยทารกแรกเกิด โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

คำสำคัญ:

ทารกคลอดก่อนกำหนด, การพัฒนาระบบการดูแล, เครือข่ายการดูแลสุขภาพ

บทคัดย่อ

     การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเครือข่าย แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การพัฒนาระบบการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด ระยะที่ 2 ศึกษาผลลัพธ์ของการพัฒนาระบบการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด ระยะที่ 3 ศึกษาปัจจัยและอุปสรรคของการพัฒนาระบบการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนดผู้ที่มีส่วนร่วมในการศึกษานี้ มีจำนวน 57 คน ได้แก่ แพทย์ พยาบาล ที่ให้บริการทารกคลอดก่อนกำหนดในโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเครือข่ายเขตสุขภาพที่ 4 ระยะเวลาที่ศึกษา คือ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2555 - 30 กันยายน 2557 เครื่องมือในการศึกษาประกอบด้วยประเด็นคำถามปลายเปิดแบบสอบถาม และแบบบันทึกข้อมูลเชิงปริมาณจากเวชระเบียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลตัวชี้วัดเปรียบเทียบปีต่อปีใช้สถิติ McNemar (Z-test) และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
     จากการศึกษาได้สร้างข้อสรุปผลการพัฒนาระบบการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเครือข่าย ทำให้มีหอผู้ป่วยเฉพาะสำหรับทารกคลอดก่อนกำหนดที่มีภาวะวิกฤต หรือผู้ป่วยที่ต้องการ การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง มีแนวทางมาตรฐานการดูแลที่ชัดเจน และเชื่อมโยงเครือข่ายการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด เกิดระบบส่งกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน และลดการส่งต่อออกนอกพื้นที่เนื่องจากสถานบริการแม่ข่ายมีศักยภาพเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์การพัฒนาพบอัตราการเสียชีวิตทารกคลอดก่อนกำหนด ที่มีน้ำหนักมากกว่า 1500 กรัม มีแนวโน้มลดลง (ร้อยละ 6.99, 5.08 ในปี 2556 และ 2557 ตามลำดับ) อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน Retinopathy of Prematurity (ROP) มีอัตราลดลง (ร้อยละ 6.09, 1.98 ในปี 2556 และ 2557 ตามลำดับ) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) จากการพัฒนาระบบการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนดสามารถส่งต่อทารกกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใกล้บ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 53.21, 77.88 ในปี 2556 และ 2557 ตามลำดับ) ทำให้เกิดแนวทางการดูแลในเครือข่ายมีมาตรฐานเดียวกัน ป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เกิดระบบการบริหารความพร้อมใช้และเหมาะสมของอุปกรณ์/เครื่องมือรวมถึงทำให้เกิดการพัฒนาด้านวิชาการ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรร่วมกัน และมีเครือข่ายเชื่อมโยงสู่การดูแลทารกคลอดก่อนกำหนดที่มีประสิทธิภาพ และคุณภาพที่ยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

1. World Health Organization. Newborn health World Prematurity day. [online] 2012 [cited 2013 Dec 17]. Availible from: URL:http://www.who.int/maternal_child_adolescent/topics/newborn/en/
2. กระทรวงสาธารณสุข, กลุ่มภารกิจด้านข้อมูลข่าวสารสุขภาพ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. สถิติสาธารณสุข ปี 2542 - 2554. [ออนไลน์] 2555 [วันที่ค้นข้อมูล 17 พฤศจิกายน 2556]. แหล่งข้อมูล : URL:http://bps.ops.moph.go.th/Healthinformation/HEALTH2.HTML
3. Shapiro S., McCormick M.C., Starfield B.H., Krisher. J.P., Bross D.Relevance of correlates of infant deaths for significant morbidity at 1 year of age. AJOG 1980;136(3):363-37.
4. สมศักดิ์ สุทัศน์วรวุฒิ, กำแหง จารุจินดา. ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยในสูติศาสตร์รามาธิบดี. กรุงเทพมหานคร: สูติศาสตร์ รามาธิบดี.2530.หน้า 72-91.
5. ธราธิป โคละทัต. High Performing System for Newborn care. ใน: ดุสิต สถาวร และคณะ (บรรณาธิการ). Advanced in Pediatrics. กรุงเทพฯ: บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพรซ์. 2552.
6. นฤมล ธีระรังสิกุล, ศิริยุพา สนั่นเรืองศักดิ์ และ อัญชัญ เตชะวีรากร. ความรู้สึกไม่แน่นอนในความเจ็บป่วยและวิธีการเผชิญความเครียดของมารดาที่มีบุตรคลอดก่อนกำหนดเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดวิกฤต. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.2545;10(2):17-31.
7. Luxner. K.L. Delmar’s pediatric nursing care plans for the hospitalized child, 3rd ed. Upper Saddle River, NJ: PeasonEducation.Inc.2005.
8. พัชรีวรรณ วิสิทธิพานิช และคณะ. อัตราและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการคลอดก่อนกำหนดในโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนครสวรรค์. นครสวรรค์: วารสารวิชาการแพทย์เขต 8. 2546.
9. รัชตะวรรณ โอฬาพิริยกุล. การพยาบาลทารกแรกเกิดภาวะวิกฤต. กรุงเทพมหานคร : เท็กซ์ แอนด์เจอร์นัล พับลิเคชั่น.2545.
10. Prasopkittikun, T. The determinants of competent parenting among Thai mothers inproviding preterm infants’ home environment. Paper presented at the International Conference on Traditions, Evidence and Innovations in Nursing, Phuket, Thailand. 2002.
11. สุนทร ฮ้อเผ่าพันธุ์. Overveiw of Low birth weight problem in Thailand. ใน : สรายุทธ สุภาพรรณชาติ (บรรณาธิการ). Workshop on Neonatal Mechanical Ventilation and LBW infants: How to Improve Outcome. กรุงเทพฯ: ธนาเพลสแอนด์ กราฟฟิค;2544.
12. วีณา จีระแพทย์. พฤติกรรมการบริหารความเสี่ยงของพยาบาลและการพัฒนาตัวแบบของโปรแกรมการบริหารความเสี่ยงในหออภิบาลทารกแรกเกิด. [ออนไลน์] 2500 [วันที่ค้นข้อมูล 17 ธันวาคม 2556]. แหล่งข้อมูล URL:http://research.trf.or.th/node/1630
13. Zulfiqar A. Bhutta, Gary L. Darmstardt, Babar S. Husan and Rachel A. Haws. CommunityBased Intervention for Improving Perinatal and Neonatal Health outcome in Developing Countries: A review of the Evidence. Pedriatrics 2005; 1158:519-617.
14. ธราธิป โคละทัต. ทารกเกิดก่อนกำหนด:สถานการณ์ปัจจุบันและผลกระทบ. ใน : ธราธิป โคละทัต (บรรณาธิการ). การบูรณาการ ระบบสุขภาพมารดาและทารก. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน). 2551;39-46.
15. สายฝน ชวาลไพบูลย์. ประสบการณ์ดูแลรักษาสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดในโรงพยาบาลศิริราช. ใน: ธราธิปโคละทัต, มานิต ศรีประโมทย์, พิมล ศรีสุภาพ, แสงแข ชำนาญวนกิจ และจันทิมา จรัสทอง (บรรณาธิการ). การสร้างความเข็มแข็งของเครือข่ายสุขภาพมารดาและทารกเพื่อการดูแลภาวะคลอดก่อนกำหนด. กรุงเทพฯ:อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน). 2552. หน้า 228-39.
16. กระทรวงสาธารณสุข, สำนักบริหารการสาธารณสุข. ประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดทำแผนระบบบริการสุขภาพ; 22 พฤศจิกายน 2555; ณ. โรงแรมเซนทราและศูนย์ราชการ 2554. [ออนไลน์] 2007 (วันที่ค้นข้อมูล 17 ธันวาคม 2013) แหล่งข้อมูล:URL:http://uto.moph.go.th/other/serviceplan/data/mn3.pdf
17. พวงทิพย์ ทัศนเอี่ยม, ธนตพร อ่อนชื่นชม และศรีอัมพร ต้วนยี่. การพัฒนาเครือข่ายการพยาบาลทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลเครือข่ายจังหวัดสกลนคร และเขตรอยต่อ. วารสารสมาคมพยาบาล สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 2554;29(3):35-45.
18. โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา, กลุ่มพัฒนาระบบบริการสุขภาพ. รายงานประจำปีงบประมาณ 2557. พระนครศรีอยุธยา:โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา. 2558.
19. Bertalanffy LV. General System Theory: Foundations Development Application. NEW York: George Braziller.1968.
20. วิรัตน์ คำศรีจันทร์. พลังความรู้จากการวิจัยแบบ PAR. กรุงเทพฯ: พี. เอ.ลีฟวิ่ง จำกัด. 2554.
21. อนงค์ สุทธิพงษ์ และ อุบล แจ้งนาม. การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดวิกฤตในทารกแรกเกิด โรงพยาบาลราชบุรี. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ. 2557;32(4):130-8.
22. เสาวลักษณ์ ชมพูทอง และสุวัลยา ศรีรักษา. การพัฒนาระบบบริการพยาบาลทารกเกิดก่อนกำหนดโรงพยาบาลมหาสารคาม และโรงพยาบาลชุมชนเครือข่ายจังหวัดมหาสารคาม. วารสารสมาคมพยาบาล สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 2556;31(2):151-164.
23. พวงทิพย์ ทัศนเอี่ยม, ธนตพร อ่อนชื่นชม และศรีอัมพร ต้วนยี่. การพัฒนาเครือข่ายการพยาบาลทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลเครือข่ายจังหวัดสกลนคร และเขตรอยต่อ. วารสารสมาคมพยาบาล สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 2554;29(3):35-45.
24. ยุวดี เกตสัมพันธ์. การประกันคุณภาพการพยาบาล และการควบคุมคุณภาพ. [เอกสารอัดสำเนา]. การอบรมวิชาการ ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์. 13 มิถุนายน 2550; ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์; กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์.2550.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-11-30

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ขันธศุภ ส, สูนพยานนท์ ศ. การพัฒนาระบบการดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาและเครือข่าย. JPMAT [อินเทอร์เน็ต]. 30 พฤศจิกายน 2018 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];5(1):1-14. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JPMAT/article/view/158373

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย