การพัฒนาแนวทางการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ของจังหวัดสิงห์บุรี

ผู้แต่ง

  • วีรชัย บริบูรณ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี

บทคัดย่อ

     การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนาโดยใช้รูปแบบการวิจัยผสมผสานการเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหาของการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของจังหวัดสิงห์บุรี แสวงหาวิธีการ แนวทาง และตัวชี้วัดการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของจังหวัดสิงห์บุรี และพัฒนาแนวทางการป้องกันควบคุมโรคโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของจังหวัดสิงห์บุรี คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจากผู้บริหารและผู้รับผิดชอบงานป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี รวมทั้งสิ้น 58 คน เก็บรวบรวมข้อมูลจากการแบบรายงาน ผลการดำเนินงาน การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ส่วนการวิเคราะห์เชิงปริมาณใช้สถิติร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของจังหวัดสิงห์บุรีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าระบบการจัดการยังไม่มีความชัดเจนตั้งแต่การคัดกรอง การรักษา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการฟื้นฟูสภาพไม่เป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากในช่วงแรกๆ ของนโยบายการจัดการสุขภาพของผู้ป่วยโรคเรื้อรังถูกดำเนินการในหลายๆ หน่วยงาน ทำให้หน่วยงานที่เป็นผู้ปฏิบัติเกิดความสับสนและไม่ชัดเจนในแนวทางปฏิบัติ
2. ในด้านการแสวงหาแนวทางในการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของจังหวัดสิงห์บุรี ได้วางระบบหรือแนวทางการดำเนินงานรวมถึงตัวชี้วัดที่ทำให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายทั้งของจังหวัดและภาพรวมของประเทศ ที่สำคัญได้เกิดการผสมผสานแนวทางของจังหวัดสิงห์บุรีกับแนวทาง VICHAI 7 COLORS Model ของนายแพทย์วิชัย เทียนถาวร มาใช้ร่วมเป็นแนวทางการดำเนินงานการคัดกรองโรคเบาหวาน/ความดันโลหิตสูงการลดความแออัด ในโรงพยาบาลชุมชน/โรงพยาบาลทั่วไปไปสู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล การวางระบบการจัดการโรคเรื้อรัง การพัฒนาคลินิก NCD คุณภาพรวมถึงการนำมาตรการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
3. ผลการพัฒนาตามแนวทางและตัวชี้วัดเพื่อนำไปสู่การป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของจังหวัดสิงห์บุรี ครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า การกำหนดนโยบาย มาตรการ และแนวทาง รวมถึงตัวชี้วัดที่ชัดเจน การนำมาตรการการจัดบริการคลินิก NCD คุณภาพของกรมควบคุมโรคมาใช้เป็นแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เป็นทางออกที่่สำคัญทำให้ผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามากกว่าร้อยละ 90 ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงบริการของสถานบริการสาธารณสุขได้ มีการลดความแออัด ลดค่าใช้จ่ายของสถานบริการทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น มีการตัดสินใจร่วมกันของผู้ให้การรักษา ผู้ป่วยและญาติซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกว่าสิ่งที่ต้องทำไม่เป็นการบังคับแต่เป็นความสมัครใจ
และเป็นปัญหาของตนเองซึ่งจะนำไปสู่การดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนต่อไป

เอกสารอ้างอิง

1. World Health Organization, Global action plan for the prevention and control of noncommunicable diseases 2013-2020. Geneva: World Health Organization; 2013.
2. World Health Organization, Global status report on noncommunicable diseases 2010. Geneva: World Health Organization; 2011
3. Delon S, Mackinnon B, Alberta Health CDMAC. Alberta’s systems approach to chronic disease management and revention utilizing the expanded chronic care model. Healthc Q. 2009 Oct;13 Spec No:98-104.
4. วิชัย เอกพลากร บรรณาธิการ. รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 4 พ.ศ. 2551-2553. นนทบุรี: เดอะกราฟิโก ซิสเต็มส์; 2553.
5. สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ. รายงานภาระโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทย พ.ศ. 2552 [อินเทอร์เน็ต]. [วันที่ค้นข้อมูล 25 มี.ค. 2556]. แหล่งข้อมูล: http://www.thaibod.net/en/report/category/6--2009-.html
6. ราม รังสินธุ์. ปิยทัศน์ ทัศนาวิวัฒน์. การประเมินผลการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และความดันโลหิตสูงของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครประจำปี 2555 [อินเทอร์เน็ต]. [วันที่ค้นข้อมูล 1 ก.ย. 2556]. แหล่งข้อมูล: http://www.nhso.go.th/downloadfile/fund/CRCN_55/3.รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์/1.%20 รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ปี 2555.pdf
7. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. ข้อมูลสถิติ [อินเทอร์เน็ต]. [วันที่ค้นข้อมูล 1 มี.ค. 2555]. แหล่งข้อมูล: http://bps.ops.moph.go.th/index.php?mod=bps&doc=5
8. สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค, คู่มือประเมินการดำเนินงานคลินิก NCD คุณภาพ ปีงบประมาณ 2558.
9. สมเกียรติ โพธิสัตย์ และคณะ. การทบทวนวรรณกรรม, สถานการณ์ปัจจุบันและรูปแบบการบริการด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : บริษัท อาร์ตควอลิไฟท์ จำกัด; 2557.
10. สุภางค์ จันทวานิช, วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2553.
11. เดชา บัวเทศ, การประเมินประสิทธิผลการดำเนินงานตามมาตรฐานงานป้องกันควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดสระบุรี ในช่วงแผนพัฒนาสาธารณสุขฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554). สระบุรี; 2555. (เอกสารเย็บเล่ม)
12. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี, แนวทางปิงปองจราจรชีวิต 7 สี สำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง. สิงห์บุรี; 2556. (เอกสารเย็บเล่ม)
13. สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค, คู่มือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในคลินิก NCD คุณภาพ. กรุงเทพมหานคร;โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด; 2558.
14. ทักษพล ธรรมรังสี. รายงานสถานการณ์โรค NCDs วิกฤตสุขภาพวิกฤตสังคม. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : บริษัท สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสซิ่ง จำกัด; 2557.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-11-21

รูปแบบการอ้างอิง

1.
บริบูรณ์ ว. การพัฒนาแนวทางการป้องกันควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ของจังหวัดสิงห์บุรี. JPMAT [อินเทอร์เน็ต]. 21 พฤศจิกายน 2018 [อ้างถึง 16 ธันวาคม 2025];6(1):60-7. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JPMAT/article/view/156656

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย