ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจผู้ดูแลต่อความสามารถ ในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
ผู้ดูแลผู้สูงอายุติดเตียง, โปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจ, ความสามารถในการดูแลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง ศึกษากลุ่มเดียว มีการวัดผลก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจ (one group pretest-posttest design) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้โปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจผู้ดูแลต่อความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ในเขตอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ดำเนินการวิจัยเป็นโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจที่สร้างขึ้นตามแนวคิดของ Gibson ประกอบด้วย การค้นพบสภาพการณ์จริง การสะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณ การตัดสินใจเลือกวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมกับตนเอง และการคงไว้ซึ่งการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ระยะเวลาดำเนินงานตามโปรแกรม จำนวน 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป แบบประเมินความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง การรับรู้พลังอำนาจในตนเองในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ความเครียดในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบ (Paired Sample T-Test) และการหาความสัมพันธ์โดยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson product moment correlation coefficient)
ผลการวิจัยพบว่า หลังการเข้าร่วมโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจผู้ดูแล มีคะแนนเฉลี่ยด้านความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ด้านการรับรู้พลังอำนาจในตนเองในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง และความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ส่วนด้านความเครียดในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจไม่แตกต่างกันทางสถิติ และพบว่าความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียงของผู้ดูแล มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการรับรู้พลังอำนาจในตนเองในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ดังนั้นพยาบาลและทีมสุขภาพสามารถนำโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจนี้ ไปพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลให้มีความสามารถในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
2. ศศิพัฒน์ ยอดเพชร. ผู้ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว. ใน : เอกสารประกอบการประชุมเวทีระดมความคิดเห็นต่อประเด็นนโยบาย เรื่อง “ระบบการดูแลและกำลังคนในการดูแลผู้สูงอายุ”; 30 ตุลาคม 2551;ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. หน้า 1-7.
3. Gibson, C.H. A study of empowerment in mothers of chronically ill children. Doctoral dissertation, school of Arts and Sciences, Department of Nursing, Boston College. 1995.
4. วิภา เพ็งเสงี่ยม. การพัฒนาโปรแกรมการสร้างเสริมพลังอำนาจของผู้ดูแลผู้สูงอายุติดเตียงในชุมชน. วารสารการพยาบาล การสาธารณสุขและการศึกษา 2560; 18(3): 83-94.
5. สมคิด ปุณะศิริ, จินต์จุฑา รอดพาล, สมคิด ตรีลาภา, วิราวรรณ จันทมูล. ผลของการใช้โปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อความสามารถในการดูแลของผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารกองการพยาบาล 2552; 36(3): 47-55.
6. ญาติกา ธีรเวช, สมปอง แสงกนึก, ชัยณรงค์ อุทัยศิริตานนท์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์การดูแลผู้สูงอายุติดเตียง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารการแพทย์และสาธารณสุขเขต 4 สระบุรี.2558; 1(6): 24-34.
7. ยุวดี รอดจากภัย และคณะ. รูปแบบการพัฒนาชุมชนและครอบครัวต้นแบบเพื่อดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการ. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ; 2557.
8. กรมสุขภาพจิต. แบบประเมินและวิเคราะห์ความเครียดด้วยตนเอง. (ออนไลน์). (เข้าถึงเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561). เข้าถึงได้จาก: https://www.dmh.go.th/ebook/view.asp?id=134
9. โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. คู่มือสำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดในการดูแลตนเอง. นครราชสีมา: โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี; 2560.
10. สาสินี เทพสุวรรณ. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียดและความสุขของการดูแลผู้สูงอายุ. วารสารประชากร 2553; 4(1): 75-88.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง