กลุ่มโรคเหตุอาชีพที่มีภาระโรคสูง
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ให้ได้ทราบลักษณะของกลุ่มโรคและสัดส่วนของโรคเหตุอาชีพลำดับต้นที่มีภาระโรคสูง เพื่อนำไปใช้จัดสรรทรัพยากรในงานอาชีวเวชกรรม ทำโดยกำหนดลักษณะเฉพาะของข้อมูลที่ควรศึกษา พัฒนาเครื่องมือ วิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย 298 คน จากข้อวินิจฉัยในรายงานของกองทุนเงินทดแทน พ.ศ. 2560 เพื่อจัดกลุ่มตามลักษณะร่วม ประมวล และสรุปผล ในบริบทไทย โรคเหตุอาชีพที่มีภาระโรคสูงพบได้ใน 4 กลุ่มโรค คือ กลุ่มการบาดเจ็บ กลุ่มการเจ็บป่วย กลุ่มโรคเหตุปัจจัยเชิงชีวกลศาสตร์ และกลุ่มโรคเหตุปัจจัยเชิงจิตสังคม (ผู้ป่วยกลุ่มการบาดเจ็บมีอุบัติการณ์สูงสุดในสี่กลุ่มโรค) โรคเหตุอาชีพอันดับหนึ่งที่มีภาระ
โรคสูงในกลุ่มประชากรที่ศึกษาคือ โรคที่เกิดขึ้นกับระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูก โดยร้อยละ 77.4 ของค่ารักษาพยาบาลวงเงินสูงทั้งหมดถูกใช้กับโรคในระบบนี้ ผู้วิจัยขอเสนอให้ มีโครงการกำหนดนิยามที่เป็นมาตรฐานของสิ่งคุกคามที่ก่อให้เกิดโรคเหตุอาชีพตามสี่กลุ่มโรคดังกล่าว และส่งเสริมให้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลอุบัติการณ์ของสี่กลุ่มโรคตามนิยามที่กำหนด แล้วให้หน่วยงานและสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง นำข้อมูลที่ได้ไปจัดสรรกลุ่มแพทย์และกลุ่มทรัพยากร และสนับสนุนงานพัฒนาชุดความรู้สำหรับบุคคล ให้เหมาะสมพอเพียงตามสี่กลุ่มโรค เพื่อลดการเกิดโรคลงให้ได้ผล
เอกสารอ้างอิง
2. กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. รายงานผลการประเมินความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพประชาชนวัยทำงาน (อายุ 15-59 ปี) ปีงบประมาณ 2559 [อินเทอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 18 ส.ค. 2560]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hed.go.th/linkHed/index/2
3. ประกาศกระทรวงแรงงานเรื่องกำหนดชนิดของโรคซึ่งเกิดขึ้นตามลักษณะหรือสภาพของงานหรือเนื่องจากการทำงาน. (2550, 15 สิงหาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 124 ตอนพิเศษ 97 ง. หน้า 9-12.
4. คณะอนุกรรมการการแพทย์หน่วยที่ 3 ที่มี รศ. นพ.ศุภชัย รัตนมณีฉัตร เป็นประธาน ตามคำสั่งกองทุนเงินทดแทนที่ 16/2559 ลงวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559. รายงานการประชุมคณะอนุกรรมการการแพทย์ (ครั้งที่ 1/2560 ถึง 19/2560) ที่เป็นผลจากลูกจ้าง 298 คน เป็นผู้ยื่นเรื่องเพื่อรับการวินิจฉัยประเด็นโรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงาน ในรอบ 1 ปี พ.ศ. 2560; 31 มกราคม, 7 และ 28 กุมภาพันธ์, 7 และ 21 มีนาคม, 4 และ 18 เมษายน, 2 และ 16 พฤษภาคม, 6 และ 20 มิถุนายน, 4 และ 18 กรกฎาคม, 1 และ 15 สิงหาคม, 12 และ 19 กันยายน, และ 3 และ 17 ตุลาคม ห้องประชุมสำนักงานประกันสังคม จังหวัดปทุมธานี. นนทบุรี: กองทุนเงินทดแทน คณะกรรมการการแพทย์; 2560.
5. ประกาศกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เรื่องหลักเกณฑ์การวินิจฉัยและการประเมินการสูญเสียสมรรถภาพของผู้ป่วยหรือบาดเจ็บด้วยโรคจากการทำงาน. (2540, 30 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป. เล่ม 114 ตอนพิเศษ 39 ง. หน้า 7-8.
6. ประกาศกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เรื่องหลักเกณฑ์การวินิจฉัยและการประเมินการสูญเสียสมรรถภาพของผู้ป่วยหรือบาดเจ็บด้วยโรคจากการทำงาน (ฉบับที่ 2). (2541, 24 เมษายน). ราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป. เล่ม 115 ตอนพิเศษ 31 ง. หน้า 8-9.
7. โยธิน เบญจวัง, วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ, บรรณาธิการ. มาตรฐานการวินิจฉัยโรคจากการทำงาน ฉบับเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550. นนทบุรี: สำนักงานกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน; 2550.
8. อดุลย์ บัณฑุกุล. การวินิจฉัยโรคจากการทำงานโดยใช้ Nine steps in occupational disease diagnosis. วารสารกรมการแพทย์ 2559;41(2):5-12.
9. สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค. แนวทางการวินิจฉัยโรคและภัยจากการประกอบอาชีพเบื้องต้นสำหรับหน่วยบริการสาธารณสุข. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2555.
10. International Labor Organization. Recording and notification of occupational accidents and diseases. Geneva: ILO; 1996.
11. Levy BS, Webman DH, Baron SL, Sokas RK, editors. Occupational and environmental health: recognizing and preventing disease and injury. 5th ed. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2006.
12. Kang S-K, Kim EA. Occupational diseases in Korea. J Korean Med Sci 2010;25(Suppl): S4-12.
13. International Labor Organization. List of occupational diseases (revised 2010). Identification and recognition of occupational diseases: Criteria for incorporating diseases in the ILO list of occupational diseases. Geneva: International Labor Office; 2010 (occupational safety and health series, no. 74).
14. Institute for health metrics and evaluation. Global burden of disease (GBD) and of Thailand. [Internet]. 2016 [cited 2018 January 26]. Available from: https://www.healthdata.org/thailand
15. สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ. การประเมินและเปรียบเทียบภาระโรคและปัจจัยเสี่ยง (Comparative risk assessment: CRA) รายงานภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชากรไทย พ.ศ. 2552. นนทบุรี: ครีเอทีฟกูรู; 2556 [เข้าถึงเมื่อ 30 มี.ค. 2561]. เข้าถึงได้จาก: https://bodthai.net
16. ชุษณะ มกระสาร, บรรณาธิการ. Thailand medical services profile 2011-2014 (การแพทย์ไทย 2554-2557). กรุงเทพฯ: กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข; 2557.
17. มูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ, สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ. รายงานภาระโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทย พ.ศ. 2557. นนทบุรี: เดอะกราฟิโก้ซิสเต็มส์; 2560.
18. Chaffin DB, Andersson G.BJ, Martin BJ. Occupational biomechanics. 4th ed. New Jersey: John Wiley & Sons; 2006.
19. Loeppke R, Heron R, Bazas T, Beaumont D, Spanjaard H, Konicki DL, et al. Global trends in occupational medicine: results of the international occupational medicine society collaborative survey. JOEM 2017;59:e13-16.
20. Pruss-Ustun A, Corvalan C. Preventing disease through healthy environments. Towards an estimate of the environmental burden of disease. France: World Health Organization; 2006.
21. Nelson DI, Concha-Barrientos M, Driscoll T, Steenland K, Fingerhut M, Punnett L, et al. The global burden of selected occupational diseases and injury risks: Methodology and summary. Am J Ind Med 2005;48:400-18.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง