ความรู้และทัศนคติในการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้าน ของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลนครนายก
คำสำคัญ:
ความรู้, ทัศนคติ, ความดันโลหิต, โรคความดันโลหิตสูง, ผู้ป่วยโรคเรื้อรังบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงสำรวจนี้เพื่อศึกษาถึงระดับความรู้และทัศนคติในการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้านของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และเปรียบเทียบระดับความรู้ ทัศนคติ จำแนกจากปัจจัยส่วนบุคคล กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่มารับการรักษาโรคความดันโลหิตสูง ในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดนครนายก ที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลนครนายก จำนวน 350 คน โดยวิธีสุ่มอย่างเป็นระบบ เก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง เท่ากับ 1 ผ่านการวิเคราะห์ความเชื่อมั่นโดยใช้สูตร KR20 เท่ากับ 0.792 และค่าสัมประสิทธิแอลฟ่าของครอนบัค เท่ากับ 0.855 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติ Mann-Whitney U test และ สถิติ Kruskal-Wallis H test ผลการวิจัยพบว่า
ระดับความรู้ในการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองอยู่ในระดับน้อยร้อยละ 43.14 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ย 68.82±19.42 คะแนน มีทัศนคติอยู่ในระดับที่ดีขึ้นไปในการวัดความดันโลหิตที่บ้านด้วยตนเองร้อยละ 55.43 จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน ได้คะแนนเฉลี่ย 48.1914±8.08093 คะแนน ระดับการศึกษา อาชีพ และประสบการณ์ในการวัดความดันโลหิตที่บ้านต่างกัน มีความรู้ และทัศนคติต่อการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P<0.05 สำหรับระดับความดันโลหิตที่แตกต่างกัน มีความรู้ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P<0.05 แต่ไม่มีความแตกต่างกันในเรื่องทัศนคติ ส่วน เพศ โรคประจำตัวร่วม อายุ และรายได้ พบว่าไม่มีความแตกต่างกันในเรื่องความรู้ และทัศนคติต่อการวัดความดันโลหิตด้วยตนเอง
จากผลการศึกษา ระบบการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ในการวัดความดันโลหิตกับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและผู้ดูแล โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะ white coat hypertension หรือมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูง อันจะก่อให้เกิดทัศนคติอันดีในการร่วมกันดูแลและติดตามผล การรักษาสุขภาพของตัวเองได้อย่างเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
2. World Health Organization. Hypertension [Internet] 2019. [cited 2019 October 12]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/hypertension
3. Yoon SS, Carrloo MD, Fryar CD. Hypertension Prevalence and Control Among Adults: United States, 2011-2014. NCHS Data Brief 2015;220:1-8.
4. AHA. Why High Blood Pressure is a “Silent Killer” [Internet] 2017. [cited 2019 October 12].Available from: https://www.heart.org/en/health-topics/high-blood-pressure/whyhigh-blood-pressure-is-a-silent-killer
5. Stergiou GS, Asayama K, Thijs L, Kollias A, Niiranen TJ, Hozawa A, et al. Prognosis of white-coat and masked hypertension: International database of HOme blood pressure in relation to cardiovascular outcome. Hypertension 2014;63:675-82.
6. สุพัตรา ศรีวณิชชากร. สถานการณ์การป่วยและการตายด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหัวใจและหลอดเลือด) ในประเทศไทย ในระยะ 5 ปี (2553-2557). วารสารควบคุมโรค 2560;43:379-90.
7. อภิชาต สุคนธสรรพ์. แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ:สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย; 2562. หน้า 1-15.
8. McManus RJ, Mant J, Roalfe A, Oakes RA, Bryan S, Pattison HM, et al. Targets and self monitoring in hypertension: randomised controlled trial and cost effectiveness analysis. BMJ 2005;331:493.
9. ฐนัฐ วงศ์สายเชื้อ. หาขนาดตัวอย่างด้วยสูตร Taro Yamane-ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง [อินเทอร์เน็ต]. 2559. [เข้าถึงเมื่อ 12 ต.ค. 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://www.youtube.com/watch?v=48eYxD0xMko
10. หทัยชนก พรรคเจริญ. เทคนิคการสุ่มตัวอย่างและการประมาณค่า [อินเทอร์เน็ต]. 2551. [เข้าถึงเมื่อ 7 พ.ย.2562]. เข้าถึงได้จาก: http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/Toneminute/files/55/A3-16.pdf
11. Bloom BS. Handbook on formative and summative evaluation of student learning. New York:Mcgraw-Hill; 1971.
12. McLeod S. Likert scale definition, Examples and Analysis [Internet]. 2019. [cited 2019 October 15]. Available from: https://www.simplypsychology.org/likert-scale.html
13. Stephanie. Reliability and Validity in Research: Definitions, Examples [Internet]. 2016. [cited 2019 October 15]. Available from:https://www.statisticshowto.datasciencecentral.com/reliability-validity-definitions-examples/
14. Bruin J. Newtest: command to compute new test. UCLA: Statistical Consulting Group [Internet]. 2006 [cited 2019 October 15]. Available from: https://stats.idre.ucla.edu/stata/ado/analysis/.
15. การทดสอบการแจกแจงแบบปกติ (Normal Distribution) ด้วย SPSS [อินเทอร์เน็ต]. 2558. [เข้าถึงเมื่อ 30 ก.ย. 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://stmath09.blogspot.com/2015/10/normal-distributionspss.html
16. de la Sierra A, Vinyoles E, Banegas JR, Segura J, Gorostidi M, de la Cruz JJ, et al. Prevalence and clinical characteristics of white-coat hypertension based on different definition criteria in untreated and treated patients. J Hypertens 2017;35:2388-94.
17. Chow CK, Teo KK, Rangarajan S, Islam S, Gupta R, Avezum A, et al. Prevalence, awareness, treatment, and Control of hypertension in rural and urban communities in high-, middle-,and low-Income countries. JAMA 2013;310:959-68.
18. Schumann B, Seidler A, Kluttig A, Werdan K, Haerting J, Greiser KH. Association of occupation with prevalent hypertension in an elderly East German population: an exploratory crosssectional analysis. Int Arch Occup Environ Health 2011;84:361-9.
19. Anowie F, Darkwa S. The knowledge, attitudes and lifestyle practices of hypertensive patients in the cape coast Metropolis-Ghana. Journal of Scientific Research & Reports 2015;8:1-15.
20. Breaus-Shropshire TL, Brown KC, Pryor ER, Maples EH. Relationship of blood pressure selfmonitoring,medication adherence, self-efficacy, stage of change, and blood pressure control among municipal workers with hypertension. Workplace Health Saf 2012;60:303-11.
21. Rampamba EM, Meyer JC, Helberg E, Godman B. Knowledge of hypertension and its management among hypertensive patients on chronic medicines at primary health care public sector facilities in South Africa; findings and implications. Expert Rev Cardiovasc Ther 2017;15:639-47.
22. Familoni BO, Ogun SA, Aina AO. Knowledge and awareness of hypertension among patients with systemic hypertension. J Natl Med Assoc 2004;96:620-4.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย ถือเป็นผลงานวิชาการ งานวิจัย วิเคราะห์ วิจารณ์ ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้นิพนธ์ กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และผู้นิพนธ์จะต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
