The Effectiveness of the Positive Thinking Training Program Towards the Self-esteem Among Addicted Women at Thung Song Prison, Nakhon Si Thammarat Province.

Authors

  • ปารเมศ เสนาสนะ Master of Public Health Program Suratthani Rajabhat University
  • อารีย์ พุ่มประไวทย์ Master of Public Health Program Suratthani Rajabhat University
  • พิมพ์สุภา จันทนะโสตถิ์ Master of Public Health Program Suratthani Rajabhat University

Keywords:

The Effectiveness of the positive thinking training program, towards the self-esteem, among addicted women

Abstract

     The purposes of this research were to examine the self-esteem of addicted women in Thung Song prison, Nakhon Si Thammarat and to compare the average score in the self-esteem of the female addicts before and after participating in the positive thinking training program of the 30 addicted women inexperimental group and the 30 addicted women in Pakpanang prison, Nakhon Si Thammarat comparative group. Who had low self-esteem. The experimental group was received six sessions of the program and it took 90-120 minutes each time per week. The procedures of group activities were as following; the great emotional control, the optimism, having the self-confidence, the amenability and respect others, the courage to face problems and obstacles, and the adherence in moral principles. Data were collected by applying questionnaires to analyze data with the descriptive statistics, the frequency
enumeration and the percentages. In the meanwhile, the standard deviation and data analysis with inferential statistics were “The Independent t-test” and “Dependent t-test”.

     The results of this research revealed that the experimental group had significantly higher mean score of self-esteem after attending the positive thinking training program (t=37.14, p<.001). and the experimental group had significantly higher mean score of self-esteem than the comparative group after attending the positive thinking training program (t=37.11, p<.001).

References

1. สมภพ เรืองตระกูล. ตำราจิตเวชศาสตร์พื้นฐานและโรคทางจิตเวช. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์; 2553.
2. สำนักบริหารการสาธารณสุข. แนวทางการบริหารจัดการระบบการรับ-ส่งต่อและติดตามผู้ป่วยยาเสพติดระบบสมัครใจ ระบบบังคับบำบัด ระบบต้องโทษ (ฉบับปรับปรุงปี 2554). กรุงเทพฯ: บริษัท นิวธรรมดาการพิมพ์ (ประเทศไทย) จำกัด; 2554.
3. อภิญญา เวชยชัย, และ คะนึงนิจ วิหคมาตย์. การศึกษาแนวทางการปฏิบัติต่อ ผู้ต้องขังหญิง:กระบวนการสร้างเสริม “กำลังใจ” และความเป็นมนุษย์ในกระบวนการยุติธรรม. กรุงเทพฯ: บริษัทพริกหวานกราฟฟิค;2553.
4. Coopersmith, S. The antecedents of delf-esreem (2nd ed.). California:Consulting Psychologist Press;1981.
5. Coopersmith, S.SEL:Self-esteemimventories. Pato Alto:Consulting Psychologist Press; 1984.
6. อาภาศิริ สุวรรณานนท์, และรัตนา บรรณาธรรม. ปัจจัยด้านบุคคลที่มีผลต่อการติดยาเสพติดซ้ำ. รายงานวิจัยสำนักพัฒนาการป้องกันและแก้ไข้ปัญหายาเสพติด. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด; 2550.
7. สมควร จุลอักษร, ถนอมศรี อินทนนท์, และบุญวดี เพชรรัตน์. ผลการใช้โปรแกรมกลุ่มตามแนวคิดพิจารณาความเป็นจริงต่อความสำนึกในคุณค่าแห่งตนของผู้ป่วยโรคจิตจากสุรา โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย 2550:15(3):199-204.
8. สมพิตร ทรายสมุทร. ผลของการบำบัดแบบกลุ่มตามแนวคิดพิจารณาความเป็นจริงต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้ที่เป็นโรคติดสุรา โรงพยาบาลแม่ทะ จังหวัดลำปาง. การค้นคว้าอิสระพยาบาลศาสตร-มหาบัณฑิต. สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2550.
9. พจนารถ กรึงไกร. ผลของโปรแกรมพฤติกรรมบำบัดแบบพิจารณาเหตุผลและอารมณ์ต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของเยาวชนในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร จังหวัดเชียงราย. (การค้นคว้าแบบอิสระพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต). สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2550.
10. วิฑูรทิพย์ หัตถะปนิตร. ผลของโปรแกรมฝึกทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของวัยรุ่นที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบเสี่ยงใน อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่. (การค้นคว้าอิสระพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต). สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2550.
11. อมรรัตน์ ชัยนนถี. ผลของโปรแกรมฝึกทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของวัยรุ่นชายที่ใช้บริการในศูนย์บำบัดรักษายาเสพติดเชียงใหม่. (การค้นคว้าแบบอิสระพยาบาลศาสตร-มหาบัณฑิต). สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2550.
12. สรินฎา ปุติ. ผลของกิจกรรมตามแนวคิดการปรับพฤติกรรมทางปัญญาที่มีต่อ การเห็นคุณค่าในตนเองของเยาวชนในสถานสงเคราะห์. (วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต). สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2552.
13. กรมราชทัณฑ์, กระทรวงยุติธรรม. คู่มือการปฏิบัติงานชุมชนบำบัดในเรือนจำและทัณฑสถาน. นนทบุรี:กรมราชทัณฑ์; 2551.
14. เรือนจำอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช. รายงานสรุปผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2557. นครศรีธรรมราช: เรือนจำอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช; 2557.
15. นาตยา วงศ์หลีกภัย. ผลของกลุ่มจิตสัมพันธ์ที่มีต่อการเห็นคุณค่าในตนเองของวัยรุ่น. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). คณะจิตวิทยา สาขาจิตวิทยาการปรึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย. กรุงเทพฯ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2532.
16. Cohen. J. Statistical power analysis of the concept. Holistic Nursing Practice, 1988:3(3); 69-77.
17. อนงค์ สืบศรี. ผลของโปรแกรมบำบัดผู้เสพยาบ้าที่มีต่อความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของเด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน. (วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). สาขาวิชาการส่งเสริมสุขภาพและพฤติกรรมศาสตร์. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม; 2554.
18. สุธาสินี นาคสินธุ์. การวิเคราะห์องค์ประกอบของการคิดเชิงบวกของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3. (วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต). สาขาจิตวิทยาการแนะแนว. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ; 2552.
19. Lloyd, Larry. Positive Thinking-Finding Happiness. (cited 2008, February 6). Available from: URL: https://Steps of/Positive/Thinking.com/101/positive-thinking-finding-happines/
20. สุดารัตน์ รักษาเคน. ผลของการให้คำปรึกษารายบุคคลและเป็นกลุ่มตามทฤษฎีเผชิญความเป็นจริงที่มีต่อการเห็นคุณค่าในตนเองของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดอุทัยธานี. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร-มหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง; 2550.
21. ประทีป แตงเลื่อน, พรรณี กาญจนวสิต. การสร้างและพัฒนาทีมงาน. (เอกสารประกอบการฝึกอบรมผู้บริหารการศึกษาระดับสูง: กองการมัธยมศึกษา กรมสามัญศึกษา). กรุงเทพฯ: กองการมัธยมศึกษา กรมสามัญศึกษา; 2551.
22. บังอร สุปรีดา. ผลของการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่มตามแนวคิดพิจารณาความเป็นจริงต่อการเห็นคุณค่าในตนเองและพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านสุขภาพจิตของผู้เสพติดยาบ้า. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2546.
23. นวลศิริ เปาโรหิตย์. วิธีเปลี่ยนแปลงตนเองและไม่ยอมแพ้อุปสรรค. กรุงเทพฯ: บี มีเดีย; 2554.
24. Ventrella, S.W. The power of positive thinking in business. London: Vermilion; 2001.
25. ทวีพร พาณิชย์พงศ์. ผลของการจัดกิจกรรมกลุ่มส่งเสริมความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของวัยรุ่นในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี. (วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). สาขาวิชาเอกอนามัยครอบครัว. บัณฑิตวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล; 2550.

Downloads

Published

2018-06-15

How to Cite

1.
เสนาสนะ ป, พุ่มประไวทย์ อ, จันทนะโสตถิ์ พ. The Effectiveness of the Positive Thinking Training Program Towards the Self-esteem Among Addicted Women at Thung Song Prison, Nakhon Si Thammarat Province. JPMAT [Internet]. 2018 Jun. 15 [cited 2024 Dec. 27];7(2):189-9. Available from: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JPMAT/article/view/128713

Issue

Section

Research Article